- หน้า 2 - |
|
![]() |
Farmer's walk with shrug |
ยืดตัวตรง ถือดัมเบลล์ลูกหนักๆไว้ในมือทั้งสองข้าง
ปล่อยแขนลงตามธรรมชาติ ไม่ต้องเกร็งหัวเข่า จากนั้น
ให้เริ่มเดินในพื้นที่กว้างๆ พร้อมๆกับบริหารท่า
Shrug
ไปพร้อมๆกัน |
|
![]() |
Staggered Squat |
วางบาร์เบลล์บนหนอกคอ
ยืนตัวตรง ยืดอกเอาไว้ ส่วนการวางตำแหน่งเท้านั้น
ให้จัดให้เท้าห่างกันเท่ากับความกว้างของไหล่
แล้วก้าวเท้าหนึ่งไปทางด้านหลังประมาณ 6 - 12 นิ้วจากตำแหน่งเดิม
จากนั้น ให้ก้าวเท้า (ข้างเดียวกันนั้น) ออกไปทางด้านข้างลำตัวอีก 6 -
12 นิ้ว แล้วจึงเริ่มบริหารท่า Squat
บริหารไปเรื่อยๆจนครบเซท พอขึ้นเซทใหม่
ก็ให้สลับเท้าอีกข้างที่เหลือไปทางด้านหลังแทน |
จากคำพูดของปีเตอสัน
"โปรแกรมการฝึกที่ผมแนะนำนี้ ใช้ได้ผลกับลูกค้าของผมเป็นจำนวนมาก
วิธีใช้ตารางฝึกคือ ผมจะแบ่งการฝึกเป็น 3 ชุด และให้คุณเพิ่มการทำคาดิโอเข้าไปในแต่ละอาทิตย์ด้วย
,ให้ทิ้งระยะห่างระหว่างชุด อย่างน้อย
24 ชม. (ก็คือเล่นทุกวันนั่นเอง - Webmaster) ด้วยการฝึกตามตารางแบบนี้ กล้ามเนื้อแต่ละส่วนของคุณจะได้รับการบริหาร 8 - 15 เซทต่อสัปดาห์ โดยในแต่ละเซทนั้น ขอให้ฝึกเซทละ 8 - 12 ครั้ง บางครั้งก็อาจทำสูงได้ถึง 15 ครั้งแล้วแต่โอกาส แต่นั่นหมายถึงว่าคุณต้องเล่นไประยะหนึ่งแล้วจนคิดว่าชำนาญในทำท่าบริหารให้ถูกต้องแล้วเท่านั้น ระหว่างเซท ควรพักไม่เกิน 30 วินาทีเว้นเสียแต่ว่าถ้าเป็นการทำซูเปอร์เซท ก็ไม่ต้องพักระหว่างเปลี่ยนท่าเลย ขอเน้นว่า ก่อนจะเริ่มในแต่ละเซท คุณจะต้องตั้งสมาธิ นึกถึงการ "ทำท่าบริหาร" ที่ถูกต้อง เมื่อมีสมาธิพร้อมแล้ว จึงเริ่มบริหารในแต่ละเซทแล้วนับจำนวนครั้ง (นับจำนวนครั้ง) ตามปกติ ให้ปฏิบัติตามตารางฝึกที่ผมให้ไว้นี้อย่างเคร่งครัด ,ทานอาหารที่มีประโยชน์ และต้องนอนพักผ่อนให้เต็มที่ ถ้าทำได้แบบที่ผมพูดไว้นี้แล้ว ก็เหมือนกับคุณบรรจุกระสุนเอ็ม 60 แบบเต็มแม็ก พร้อมที่จะออกลุยในทุกสถานการณ์เลยทีเดียวครับ" (จาก Webmaster - ปีเตอสันเขาพูดสั้นๆไว้แค่นี้ โดยในหน้านี้จะเป็นตารางฝึกของอาทิตย์ที่ 1 และอาทิตย์ที่ 2 ความหมายของปีเตอสันก็คือ ให้คุณฝึกทุกวันนั่นเอง ผมจะอธิบายให้ฟังดังนี้คือ (สมมติว่าเริ่มฝึกวันจันทร์) สัปดาห์ที่ 1 วันจันทร์ - ฝึกชุดที่ 1 วันอังคาร - ฝึกชุดที่ 2 วันพุธ - ฝึกชุดที่ 3 วันพฤหัส - ฝึกชุดที่ 1 วันศุกร์ - ฝึกชุดที่ 2 วันเสาร์ - ฝึกชุดที่ 3 วันอาทิตย์ - ฝึกชุดที่ 1 สัปดาห์ที่ 2 วันจันทร์ - ฝึกชุดที่ 2 วันอังคาร - ฝึกชุดที่ 3 วันพุธ - ฝึกชุดที่ 1 วันพฤหัส - ฝึกชุดที่ 2 วันศุกร์ - ฝึกชุดที่ 3 วันเสาร์ - (น่าจะพัก) วันอาทิตย์ - (น่าจะพัก) หมายเหตุ - ในวันเสาร์และอาทิตย์ ที่ผมใช้คำว่า "น่าจะพัก" เพราะปีเตอสันไม่ได้บอกรายละเอียดในส่วนนี้ ผมวิเคราะห์แล้วเห็นว่าถ้าวันเสาร์ (ของสัปดาห์ที่ 2) เอาชุดที่ 1 มาฝึก ,วันอาทิตย์ (ของสัปดาห์ที่ 2) ก็ต้องเอาชุดที่ 2 มาฝึก แล้วปัญหาก็คือวันจันทร์อีกครั้ง (จันทร์ของสัปดาห์ที่ 3) นี่แหละ ซึ่งเราจะใช้ตารางฝึกรูปแบบที่สอง (ซึ่งอยู่ในหน้าถัดไป) มันก็จะไม่ปะติดปะต่อกัน เพราะวันจันทร์ของสัปดาห์ที่ 3 มันจะต้องเริ่มเอาชุดที่ 1 ของตารางฝึกรูปแบบที่สอง (ซึ่งอยู่ในหน้าถัดไป) มาใช้แล้ว มันก็จะคร่อมกัน คือการเล่นกล้ามขา จะหายไป 1 วงรอบเลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง จริงๆผมไม่ได้อยากแปลงต้นฉบับ แต่ในเมื่อเขาไม่ได้พูดถึง ก็ต้องใช้ประสบการณ์การดูตารางฝึกเข้ามาเปรียบเทียบให้น่ะครับ ซึ่งผมจะพยายามตามล่าหาวีดีโอการฝึกของปีเตอสันมาดู เพื่อจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ เน้นอีกครั้ง - ตารางฝึกที่ปรากฏในหน้านี้ ให้คุณใช้ในอาทิตย์ที่ 1 และอาทิตย์ที่ 2 นะครับ เล่นชุดที่ 1 เสร็จก็พัก 24 ชม.แล้วก็เล่นชุดที่ 2 อย่างนี้ไปเรื่อยๆ พอครบสามชุดก็วนกลับมา (พูดง่ายๆก็เล่นทุกวันนั่นแหละ) สำหรับชื่อท่าฝึกนั้น ไม่คุ้นหูคุ้นตาเลยครับ ขนาดผมเองก็มองภาพไม่ออกเหมือนกัน ก็ถือว่าหาข้อมูลมาให้เท่าที่ทำได้น่ะครับ เพราะการฝึกของปีเตอสัน มีรากฐานมาจากการเพาะกายหลักก็จริง แต่พี่แกประยุกต์ไปซะห่างไกลเลย |
ตารางฝึกนี้
ให้ใช้กับอาทิตย์ที่ 1 และอาทิตย์ที่ 2 ชุดที่ 1 : ฝึกหน้าอก ,บ่า ,หัวไหล่ ,หลังแขน |
ท่าบริหาร | จำนวนเซท | จำนวนครั้ง | |
Incline Plyometric Push-Up (ภาพล่าง) | 3 | 8 | |
Incline Bench Press | 4 - 5 | 8 - 10 | |
Wall-to-Wall Dip (ไม่มีภาพ) | 3 | 6 - 8 | |
Weighted Negative Dip | 3 | 8 - 10 | |
Dumbbell Overhead Press | 3 | 8 - 10 | |
Wide-Grip Upright Row (จับแบบกว้าง) | 3 | 10 - 12 | |
Behind-the-Back Shrug | 3 | 12 | |
Farmer's walk with shrug (ภาพบน) | 3 | 30 วินาที | |
3-Point Dumbbell Kickback (ภาพล่าง) | 3 | 12 ครั้ง/ข้าง |
ชุดที่ 2 : ฝึกหลัง ,หน้าแขน ,แขนท่อนปลาย |
ท่าบริหาร | จำนวนเซท | จำนวนครั้ง | |
Alternating Angled Pull-Up (ภาพล่าง) | 3 | 8 - 10 (หรือหมดแรง) | |
Plyometric Pull-Up (ภาพล่าง) | 3 | 8 | |
Uneven Lat Pulldown (ภาพล่าง) | 3 | 10 - 12 | |
Narrow-to-Wide Barbell Curl (ภาพล่าง) | 3 | 8 - 10 | |
Wax-Off Dumbbell Curl (ภาพล่าง) | 3 | 10 | |
Fat-Bar Curl (ภาพล่าง) | 3 | 10 - 12 | |
Reverse Wrist Curl | 3 | 12 | |
Barbell Wrist Curl | 3 | 15 |
ชุดที่ 3 : ฝึกขา ,กล้ามท้อง |
ท่าบริหาร | จำนวนเซท | จำนวนครั้ง | |
Staggered Squat (ภาพบน) | 3 | 8 - 10 | |
Squat Jump with varied landings (หน้าถัดไป) | 3 | 8 | |
Smith Machine Squat (หน้าถัดไป) | 3 | 10 - 12 | |
Exercise-Ball One-Leg Bridge (หน้าถัดไป) | 3 | 12 (ต่อข้าง) | |
Standing Calf Raise | 3 | 12 - 15 | |
Weighted Chop on Exercise Ball (หน้าถัดไป) | 3 | 12 - 15 (ต่อข้าง) | |
Medcine-Ball Toss/Crunch (หน้าถัดไป) | 3 |
15 |
|
Incline Plyometric Push-Up |
3-Point Dumbbell Kickback (ตามรูปล่าง) |
|
จังหวะที่ 1 (ภาพบน) - งอหัวเข่า ก้มแผ่นหลังลงจน
"เกือบ" จะขนานกับพื้น จากนั้นให้ถือดัมเบลล์ไว้ในมือแบบในภาพข้างบน
โดยให้ข้อศอกอยู่ในระดับต่ำกว่าแผ่นหลัง |
|
จังหวะที่ 2 (ภาพบน) - เหยียดแขนตรงไปข้างหลังจนสุด |
|
จังหวะที่ 3 (ภาพบน) - งอแขนลงมา
แต่ตอนนี้ให้จัดให้ระดับข้อศอกอยู่ในระดับเดียวกับแผ่นหลัง |
|
จังหวะที่ 4 (ภาพบน) - เหยียดแขนตรงไปข้างหลังจนสุด |
|
จังหวะที่ 5 (ภาพบน) - งอแขนลงมา
แต่ตอนนี้ให้จัดให้ระดับข้อศอกอยู่สูงกว่าระดับแผ่นหลัง |
|
จังหวะที่ 6 (ภาพบน) - เหยียดแขนตรงไปข้างหลังจนสุด
ถึงตรงนี้จึงนับว่า "1"
ทำซ้ำจังหวะที่ 1 ถึงจังหวะที่ 6 ใหม่แล้วนับเป็น "2"
ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบจำนวนครั้งที่กำหนด
แล้วจึงเปลี่ยนแขนไปบริหารอีกข้างหนึ่ง ทำซ้ำตั้งแต่เริ่ม
จนครบจำนวนครั้งที่กำหนด จึงจะนับเป็น 1 เซท |
Wall-to-Wall Dip |
จังหวะที่ 1 -
เริ่มจากการงอข้อศอก เหมือนในท่า
Dip
ตามปกติ คืองอข้อศอกไว้ 90 องศา จังหวะที่ 2 - ให้ดันตัวขึ้นโดยพุ่งตัวไปทางด้านซ้ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ไม่ใช่ไปข้างหน้านะครับ ให้ไปทางด้านซ้าย) จนรู้สึกเหมือนว่าน้ำหนักตัวทั้งหมด ตกลงไปที่แขนข้างซ้าย "หยุดจังหวะไว้ตรงนี้ประมาณ 2 วินาที" จังหวะที่ 3 - ให้เอนตัวไปทางด้านขวาทันที จนรู้สึกเหมือนว่าน้ำหนักตัวทั้งหมด ตกลงไปที่แขนข้างขวา "หยุดจังหวะไว้ตรงนี้ประมาณ 2 วินาที" จังหวะที่ 4 - ลดระดับตัวลงมาจนเป็นเหมือนจังหวะที่ 1 จังหวะที่ 5 - ให้ดันตัวขึ้น โดยพุ่งไปทางด้านขวาให้มากที่สุด (เหมือนกับจังหวะที่ 2 เพียงแต่สลับข้างกัน) แล้วค้างจังหวะ 2 วินาที จังหวะที่ 6 - ให้เอนตัวไปทางด้านซ้ายให้มากที่สุด ถึงตรงนี้จึงนับว่า "1" ทำซ้ำจังหวะที่ 1 ถึงจังหวะที่ 6 ใหม่แล้วนับเป็น "2" ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบจำนวนครั้งที่กำหนด ข้อแนะนำ คือ ให้คุณนึกทิศทางที่คุณดันตัวขึ้น ให้เป็นรูป "สามเหลี่ยม" (จากล่างไปซ้ายบน แล้วไปขวาบน แล้วลงมาล่างอีกครั้ง) ไม่ใช่รูป "วงกลม" |
|
![]() |
Alternating Angled Pull-Up |
คว่ำมือจับที่ดึงข้อเอาไว้ ให้ระยะห่างของมือทั้งสองข้าง
กว้างกว่าความกว้างของบ่า (ตามรูปข้างบน)
ปล่อยตัวห้อยตามธรรมชาติ จนแขนทั้งสองข้างเหยียดเต็มที่
จากนั้น ให้ออกกำลังจากกล้ามปีก"ดึง" ตัวขึ้นไปทางด้านขวา จนกระทั่ง
"คางเกือบแตะบาร์" ,จากนั้น จึงค่อยหย่อนตัวกลับลงมาเหมือนเดิม
จากนั้น ก็ออกแรงจากกล้ามปีก ดึงตัวขึ้นไปทางซ้ายจนคางเกือบแตะบาร์อีก
จากนั้นจึงหย่อนตัวลงมาเหมือนเดิม ถึงตรงนี้ให้นับว่า "1"
แล้วทำจนครบจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ใน 1 เซท |
|
![]() |
Plyometric Pull-Up |
คว่ำมือจับที่ดึงข้อไว้ โห้ระยะห่างของมือทั้งสองข้าง
กว้างกว่าความกว้างของบ่า ปล่อยตัวห้อยตามธรรมชาติ
จนแขนทั้งสองข้างเหยียดเต็มที่ (ตามรูปข้างบนด้านซ้าย)
จากนั้นออกแรงจากปีก "กระชาก" ตัวขึ้นอย่างแรง
พร้อมกับปล่อยมือทั้งสองข้างในจังหวะที่ตัวคุณกำลังจะขึ้นสู่จุดสูงสุด
จนรู้สึกตัวได้ว่าคุณกำลังลอยอยู่ในอากาศ (ตามภาพขวาบน) จากนั้น
เมื่อร่างกายตกลงมา คุณก็จับที่จับให้มั่นคง
แล้วค่อยๆหย่อนตัวลงมาจนแขนเหยียดตึงเหมือนในจังหวะแรก |
|
![]() |
Uneven Lat Pulldown |
ใช้อุปกรณ์สำหรับการเล่นท่า Pulldown
ธรรมดา เพียงแต่ว่าการจับอุปกรณ์นั้น
ให้เอาแขนข้างซ้ายชี้ตรงขึ้นไปข้างบน โดยให้มือข้างซ้ายจับที่ตัวบาร์
(มือซ้ายจะเป็นแนวเดียวกันกับหัวไหล่ข้างซ้าย) ส่วนมือขวา
ก็จับตรงที่จับของบาร์ตามปกติ (ตามรูปทางด้านซ้าย)
จากนั้นจึงออกแรงจากกล้ามปีก ดึงตัวบาร์ลงมาจนแตะยอดอก
แล้วเมื่อเหยียดแขนขึ้นจนเหยียดตึงอีกครั้ง (กลับสู่ท่าเริ่มต้น)
ก็นับเป็น "1"
ทำซ้ำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ในเซทนั้น หลังจากพักเซทแล้ว เวลามาเริ่มต้นเซทที่สอง ก็ให้สลับวิธีจับกัน โดยให้มือซ้ายจับที่จับของบาร์ตามปกติ ส่วนมือขวาก็เหยียดตรงขึ้นไปข้างบน ไปจับที่ตัวบาร์ (มือขวาอยู่ในแนวเดียวกับหัวไหล่ขวา) แล้วบริหารจนจบเซท |
|
![]() |
Narrow-to-Wide Barbell Curl |
จับบาร์เบลล์ให้แคบที่สุดเท่าที่จะทำได้
(มือทั้งสองข้างจะห่างกันประมาณ 6 นิ้ว และไทรเซบจะแนบติดอยู่กับข้างลำตัว)
จากนั้นให้ม้วนข้อจนกว่าจะหมดแรง วางบาร์เบลล์ลง
(แต่ยังไม่ให้พักเซท และไม่ต้องเปลี่ยนบาร์เบลล์)
แล้วกระเถิบระยะห่างระหว่างมือทั้งสองข้างออกไปให้กว้างกว่าความกว้างของบ่า
จากนั้น จึงม้วนข้อจนกว่าจะหมดแรงอีกครั้ง จึงจะนับเป็น 1 เซท |
Wax-Off Dumbbell Curl |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ถือดัมเบลล์ โดยหันหลังมือเข้าหาตัว (ตามภาพที่ 1) จากนั้นก็ม้วนข้อขึ้นไป (ตามภาพที่ 2) จากนั้น ให้ "หมุนหัวไหล่" เข้าหากันโดยที่ต้นแขนทั้งสองข้างแนบอยู่กับลำตัว (ตามภาพที่ 3) จากนั้น จึงผ่อนลูกน้ำหนักลงมาตรงๆ (ตามภาพที่ 1) จึงนับเป็น "1" บริหารไปเรื่อยๆจนครบเซท |
Fat-Bar Curl |
|
|
การบริหารท่านี้ ก็คือการบริหารท่า Standing barbell Curl ตามปกตินั่นเอง เพียงแต่ว่าจะต้องใช้ "บาร์แบบหนาพิเศษ" ที่เรียกว่า Fat Bar (บาร์อ้วน) ตามภาพข้างบนนี้ ที่ต้องเป็นบาร์แบบหนาก็เพื่อบริหารแขนท่อนปลายไปในตัว และยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอุ้งฝ่ามือของเราด้วย โดยปีเตอสันบอกไว้ว่า ถ้าหาบาร์ที่ว่านี้ไม่ได้ ก็ให้ใช้ผ้าเช็ดตัวพันบาร์เบลล์ธรรมดา โดยให้พันสามทบ หรือใช้ผ้าสามผืนก็ได้ |