Hight Intensity (HIT)
(รหัส ดี สอง - สอง - ศูนย์)

(ข้างบนนี้คือปกเทปต้นฉบับ ของผมเป็นอีกแบบหนึ่งครับ)


 

ข้างล่างนี้คือภาพนิ่งของคุณไมค์  เมนเซอร์ (ไม่ได้ปรากฏในเทปครับ)


 

 
               HIT คือระบบฝึกแบบเข้มข้นอย่างที่สุด ซึ่งคุณสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่หน้า http://www.tuvayanon.net/3hitf.html แต่ในที่นี้จะสรุปย่อให้ฟังสั้นๆดังนี้คือ

               ระบบฝึกแบบ High Intensity นี้ ถูกคิดค้นโดยคุณไมค์  เมนเซอร์ (ภาพบน) โดยมีหลักการคือการบริหารด้วยน้ำหนักที่หนักมากที่สุด และทำด้วยจำนวนครั้งสูงสุดเท่าที่ทำได้ ทำจนหมดแรงจริงๆ  และการบริหารแต่ละครั้งจะต้องไม่เกิน 25 นาที และจะต้องเล่นไม่ถี่   ซึ่งคุณไมค์ฯ พัฒนาปรับปรุงการบริหารแนวนี้ โดยเขียนตำราและออกเทปต่างๆเรื่อยมา แต่ที่ทำให้ระบบฝึกแบบนี้เป็นที่รู้จักมากที่สุดก็ตอนที่ ระบบฝึกดังกล่าวสามารถทำให้เขาเองชนะรายการมิสเตอร์ยูนิเวอร์ส ปี 1978 (พ.ศ.2521) ด้วยคะแนนเต็ม 300 แต้ม ถือเป็นนักเพาะกายคนแรกของโลกที่ได้คะแนนเต็ม 100% ในรายการสุดหินนี้

               เขาพัฒนาระบบฝึกเป็นสิบๆปี และเมื่อยุคทองของการเพาะกายมาถึง คือยุคที่เรียกว่า Modern Bodybuilding (หมายความว่า ยุคที่การเพาะกาย สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้สวย ,และใหญ่โต มากที่สุดเท่าที่มีมาในประวัติศาสตร์) ระบบฝึกของไมค์นี้ ก็ลงตัว นั่นคือ ฝึกครั้งละ 2 ถึง 5 เซท และให้เว้นวันฝึกไว้ 4 วัน (มากสุดไม่เกิน 8 วัน) และนี่คือตัวอย่างตารางฝึกของเขา

วันที่ 1 ฝึกต้นขา ด้วยท่า
SQUAT เป็นจำนวน 1 เซท โดยใน 1 เซทนี้จะบริหาร 12 ครั้ง (หรือมากสุดไม่เกิน 20 ครั้ง)

วันที่ 2 - วันที่ 4 หยุด

วันที่ 5 ฝึกหน้าอก และปีก ด้วยท่า
INCLINE BENCHPRESS / PULL DOWN TO FRONT  / DEADLIFT หรือ BARBELL SHRUG (อย่างใดอย่างหนึ่ง) ท่าทั้งหมดที่พูดมานี้ บริหารท่าละ 1 เซท

วันที่ 6 - วันที่ 9 หยุด

วันที่ 10 ฝึกต้นขา ด้วยการใช้เทคนิค
SUPERSETS (คลิ๊กเพื่ออ่าน) โดยเอา 2 ท่านี้บริหารรวมกัน คือ LEG EXTENSION และ LEG PRESSES

วันที่ 11 - วันที่ 14 หยุด

วันที่ 15 ฝึกหัวไหล่ และต้นแขน ด้วยท่า
SIDE LATERAL RAISE / REVERSE PEC DECK / EZ - BAR PREACHER CURL / DIP FOR TRICEPS

วันที่ 16 - วันที่ 19 หยุด

นั่นหมายความว่ากล้ามเนื้อแต่ละส่วน (ยกเว้นต้นขา) จะกลับมาเล่นอีกครั้งก็ต่อเมื่อเวลาผ่านไป 18 วัน

กลับไปเริ่มฝึกวันที่ 1 ใหม่

               ไม่ว่าใครจะโจมตีระบบฝึกนี้ว่าเป็นอย่างไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่ ช็อคโลก เพราะผู้ที่ชนะรายการมิสเตอร์โอลิมเปีย ซึ่งเป็นรายการแข่งขันของโจ  ไวเดอร์ (โจ  ไวเดอร์ มีระบบฝึกของตัวเองที่เรียกว่า Weider Systems ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับระบบฝึก Hight intensity ที่กำลังพูดถึงนี้) กลับออกมายืนยันว่าเขาใช้ระบบฝึก Hight intensity เพียงระบบเดียว โดยข้างล่างนี้คือผลการฝึก ที่เขาใช้ระบบฝึก Hight intensity เพียงปีเดียว
 
 

เพียงปีเดียวที่ดอเรียน เยทส์ ใช้ระบบ High Intensity ความเปลี่ยนแปลงก็เห็นได้ชัด
 

                 ทำไมถึงต้องพูดว่า "ช็อคโลก" นั่นเพราะ ถ้าคุณต้องการจะได้ที่หนึ่ง ในรายการแข่งขันใดแล้ว (รายการมิสเตอร์โอลิมเปีย) คุณควรจะพะเน้าพะนอ หรือยกยอเจ้าของรายการนั้น เช่นดอเรียนท์  เยทส์ ควรจะพูดว่า "ผมฝึกจนได้กล้ามเนื้อขนาดนี้ ก็ด้วยระบบฝึกของ โจ  ไวเดอร์ (Weider Systems)"  ซึ่งการพูดแบบขวานผ่าซาก ไม่ไว้หน้าระบบฝึกของ โจ  ไวเดอร์ แบบนี้ ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตายในการแข่งขัน เพราะโจ  ไวเดอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของรายการ อาจจะใช้อิทธิพลกับกรรมการผู้ให้คะแนนการประกวด ทำให้ดอเรียนท์ตกกระป๋องได้ แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีใครโค่นโดเรียนท์ ในรายการมิสเตอร์โอลิมเปียลงได้เลย 8 ปีซ้อน จนดอเรียนท์ แขวนนวมด้วยตัวเองไป (โดยส่วนตัวแล้ว ผมประทับใจในความเป็นคน "ขวานผ่าซาก" ของโดเรียนท์ ตอนที่เขาให้สัมภาษณ์พิธีกรรายการดังรายการหนึ่ง โดยพิธีกรบอกว่า คุณคือเบอร์หนึ่งของวงการเพาะกาย ผมอยากจะขอให้คุณถอดเสื้อโชว์กล้ามออกทีวีตอนนี้เลยได้ไหมตอนนี้ (ผมจำได้ว่าในสถานการณ์เดียวกันนี้ อาร์โนลด์  ชวาลเซเนกเกอร์ เคยถอดเสื้อโชว์ในห้องส่งเลย และบันทึกภาพไว้ แต่ผมจำไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่ไหน) แต่แทนที่ดอเรียนท์จะทำเพื่อเอาใจแฟนๆ หรือเพื่อเป็นการโปรโมทกีฬานี้ให้กับคนที่ไม่เคยรู้จักกีฬาเพาะกายมาก่อน เขากลับพูดว่า

               "ถ้าคุณเอาโรนัลโญ่ มาสัมภาษณ์ในห้องส่งเดียวกันนี้ คุณจะต้องให้โรนัลโญ่ เดาะบอลรอบห้องส่งนี้ไหม"

               (เงียบทั้งห้องส่ง)  ความหมายของมันก็คือ ถ้าคุณยิ่งใหญ่ด้วยอะไรสักอย่าง มันก็จะรวมอยู่ในชื่อและนามสกุลของคุณอยู่แล้ว เช่นเมื่อคุณพูดถึง โรนัลโญ่ นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ ก็คือการที่ทุกคนยอมรับในความยิ่งใหญ่ในโลกฟุตบอลของเขาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้มาแสดงความสามารถในห้องส่งแต่อย่างใด   โดเรียนท์ ก็เช่นกัน เขาไม่สนใจว่าคนทั่วไปจะรู้จักกีฬาเพาะกายขนาดไหน แต่สำหรับในโลกเพาะกายแล้ว เขาคือเบอร์ 1 จึงไม่จำเป็นต้องมาเบ่งกล้ามในห้องส่งนี้แต่อย่างใด

               ที่ผมพูดมายืดยาวขนาดนี้ เพื่อมาขมวดปมตอนท้ายว่า ดอเรียนท์ เป็นคนพูดขวานผ่าซาก และเขาพูดเองกับปากว่า ระบบฝึกระบบเดียวที่ทำให้กล้ามเนื้อเขาพัฒนาได้ขนาดนี้คือระบบฝึก HIT (High Intensity Training) เท่านั้น  เลยยิ่งเป็นการตอกย้ำความได้ผลของระบบฝึกนี้ ซึ่งน่าสนใจตรงที่ใช้เวลาเล่นน้อย ,พักนาน ได้ผลเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ เวลาที่เหลือสามารถเอาไปใช้กับชีวิตครอบครัว  การงาน ธุรกิจต่างๆได้
 
 

ไมค์ คนทางขวา กับรถบุโรทั่งของเขา
Mike next to car he lived in during his OUTdoor phase
(คำบรรยายภาพ)
 

เทียบกับโจ  ไวเดอร์ ที่รวยติดอันดับโลก
 
                 รู้ไหมครับว่ามันน่าสนใจตรงไหน? ทั้งสองท่านที่เห็นในภาพข้างบนนี้ ต่างคนต่างก็มีระบบฝึกของตัวเอง ความแตกต่างก็คือ ไวเดอร์ มีรายการประกวดของตนเอง (โอลิมเปีย)  มียี่ห้ออาหารเสริมของตนเอง (โจ ไวเดอร์) มีบริษัทขายเครื่องออกกำลังของตัวเองที่ขายทั่วโลก (ไวเดอร์) เป็นเจ้าของหนังสือได้แก่ Shape, Men's Fitness , Living Fit, Prime Health and Fitness, Fit Pregnancy, Cooks, Senior Golfer, and Flex ที่ขายทั่วโลก ในขณะที่ไมค์  เมนเซอร์ มีรถกระป๋อง เก่า ปุปะ (สังเกตุให้ดีจะเห็นรอยสนิมหลายจุด) อยู่คันเดียว และพักอยู่อพาร์ทเม้นท์ ไม่ใช่คฤหาสน์เหมือนไวเดอร์

               ถ้าคิดแบบนักธุรกิจแล้ว เมื่อไวเดอร์เห็นว่าคนไหนหน้าตาดี ถ่ายรูปขึ้นกล้อง กล้ามพื้นฐานสวยงาม เขาก็จะซื้อตัวมา ,ให้เงินเดือน แล้วก็ "สั่ง" ให้พูดว่า ที่นักกล้ามคนนั้น มีกล้ามสวยขนาดนี้ ก็ด้วยระบบฝึกของไวเดอร์ ,ด้วยอาหารเสริมไวเดอร์ แล้วคนๆนั้นก็จะได้ตำแหน่งสูงๆในการประกวด ออกรายการสัมภาษณ์ ออกปกหนังสือ แล้วก็ทำให้ภาพพจน์ของบริษัทดีขึ้นไปด้วย (ขายของดีตามไปด้วย)  เพราะคนจะเข้าใจว่าระบบฝึกของไวเดอร์ ทำให้เขาผู้นั้นมีกล้ามสวยงามเตะตา ซึ่งความจริงแล้ว เขาถูกปั้นขึ้นมาจากพรสวรรค์เดิมที่มีมาก่อนต่างหาก

               ผิดกับไมค์ ที่อุทิศตนให้กับการศึกษาเทคนิคการฝึกแบบเดียวเท่านั้นคือ HIT (High Intensity Training) แม้ว่าจะเขียนตำราขายเพื่อประทังชีวิตบ้าง แต่ก็คือตำราเกี่ยวกับ HIT (High Intensity Training)  อยู่ดี โดยไม่นำพากับธุรกิจแอบแฝงใดๆ เหมือนโจ  ไวเดอร์  ดังนั้นในส่วนตัวผมแล้ว (Webmaster) ผมมีความนับถือคนแบบไมค์  เมนเซอร์ เป็นที่สุด เพราะมีความอุทิศตัว ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ อยู่กับสิ่งที่รัก คือระบบฝึกของเขามาตลอดชีวิต  ดังนั้น ถ้าเอาสองคนนี้มาพูดในสิ่งเดียวกัน (เช่น ระบบฝึกของเขาคนนั้น ใช้ได้ผลที่สุด)  ผมจะเชื่อไมค์ มากกว่าครับ

               การถ่ายทำวีดีโอในม้วนนี้ สู้ไม่ได้เลยวีดีโอของโจ  ไวเดอร์ นั่นเพราะว่า โจ ไวเดอร์ มีนักเพาะกายหล่อๆ สวยๆ กล้ามสุดยอด อยู่ในสังกัดของตัวเอง ,มีกล้อง มีโรงถ่ายของตัวเอง ในขณะที่ทุกอย่างที่พูดมานี้ ไม่มีเลยสำหรับไมค์  เมนเซอร์ ที่ทำวีดีโอชุดนี้ แต่จงอย่าวัดกันที่ "ความดูดี" ของวีดีโอ เพราะจะทำให้คุณพลาดสิ่งดีๆไปได้

               ในวีดีโอม้วนนี้ จะใช้นักเพาะกายชื่อ มาร์คัส  เรียนฮาร์ด นักเพาะกายธรรมดาโนเนม (อาจจะค่าตัวถูก หรือไม่ก็แสดงเป็นการกุศล)  เป็นตัวแสดงการบริหาร โดยมีคุณไมค์และพี่ชายฝาแฝด คอยชี้แนะ โดยเป็นการฝึกจริงๆทั้งหมด ไม่ใช้มุมกล้อง ไม่ใช้การตัดต่อให้ดูดี ดังนั้นวีดีโอม้วนนี้จึงมีคุณค่ามากในแง่ของวิชาการ และทฤษฎี HIT (High Intensity Training)

ส่งท้าย ประการแรก แม้ทฤษฎี
HIT (High Intensity Training) จะยืนยันว่า ระบบฝึกนี้สามารถใช้ได้เลยตั้งแต่เริ่มต้น (หมายถึงว่าไม่เคยเพาะกายมาก่อนเลย) และนักเพาะกาย 1,000 คนที่เคยฝึกด้วยทฤษฏีนี้มาแล้ว ก็ไม่มีใครบาดเจ็บเลย แต่ต้องไม่ลืมว่า ก่อนปี 1992 ที่ดอเรียนท์จะมาใช้เทคนิคนี้ เขาใช้เทคนิคของไวเดอร์มาก่อนนะครับ เพราะยังมีตัวเขาปรากฏอยู่ในวีดีโอไวเดอร์ ซิสเท็ม อยู่เลย  จุดที่ผมกำลังจะบอกก็คือว่า ควรเอาทฤษฏีสองเจ้านี้มาใช้ร่วมกันนั่นคือ ควรฝึกด้วยระบบพื้นฐานของไวเดอร์ก่อน ซึ่งมีให้เลือกตั้งหลายสิบแบบและเป็นเนื้อหาหลักๆของเวบของผมนี้เลย  จนมีกล้ามเนื้อพื้นฐานแล้ว ซึ่งก็ควรจะมีอย่างน้อย 1 ปี จากนั้นถึงลองใช้ HIT (High Intensity Training)  ได้ครับ

               ประการที่สอง ผมชื่นชอบการอุทิศตัวโดยไม่มีธุรกิจแอบแฝงของคุณไมค์  เมนเซอร์ มาก แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังต้องเสียเงินค่าเช่าโฮสก์ ,ค่าอินเตอร์เนท ,ค่าซื้อวีดีโอชุดใหม่ๆมาดู ดังนั้น การที่มีการขายของในเวบนี้ ก็ไม่ได้หวังร่ำรวยอะไร ขอเพียงแค่มีเงินจ่ายรายจ่ายเหล่านี้ก็พอ  ถ้าเพื่อนสมาชิกอยากให้เวบนี้อยู่ได้นานๆ หรือมีวีดีโอใหม่ๆมาดูเรื่อยๆ ก็ช่วยกันอุดหนุนนะครับ อย่าได้ก๊อปปี้แจกจ่ายกันเลย ผมเคยไปเห็นครั้งหนึ่ง ผมเลิกทำซีดีไปปีครึ่งเลยครับ  อีกอย่างคือผมไม่ได้ปั้มออกมาเป็นแสนๆแผ่นแบบที่เห็นจับกันทางโทรทัศน์ อันนี้เราทำเหมือนส่งกันให้เพื่อนดูในกลุ่ม เดือนหนึ่งทำยังไม่เกิน 8 แผ่นเลย เดือนที่ผ่านมาก็มีเพื่อนสมาชิกอุดหนุนแค่ 3 คน   อีกอย่างหนึ่ง ผมเคยคิดไว้เหมือนกันว่า ผมอยากจะทุ่มเทให้กับการเพาะกายมากกว่านี้ ดังนั้น ถ้าผมมีรายได้จากการขายของในเวบ พอที่จะจ่ายค่าอินเตอร์เนท ,ซ่อมคอมพิวเตอร์ และค่ากินอยู่แบบพอเพียง  ผมก็อาจจะเปลี่ยนอาชีพเลย เพราะดูแล้ว ทุกวันนี้ งานราชการของผม ทำให้ผมทุ่มเทกับการเพาะกายได้ไม่มากนัก หรือแทบไม่มีเลย ขอให้เข้าใจตามนี้นะครับ  ช่วยกันอุดหนุนและเป็นหูเป็นตาด้วยนะครับ

 
 

ถ้าสนใจเรื่องนี้ ให้เมลล์มาบอกผมที่ tuvayanon@hotmail.com ใช้หัวข้อว่า "สนใจวีดีโอ" ครับ

เขียนเนื้อหาเมลล์มาสั้นๆครับ เช่น สนใจเรื่อง HIT  รหัส ดี สอง - สอง - ศูนย์


 

- END -