- หน้า 6 - |
|
อาชีพอะไร
ก็เป็นนักเพาะกายได้ทั้งนั้น กีฬาเพาะกายนั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับการเล่นเพื่อเข้าประกวดเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อาชีพอะไร มีพรสวรรค์ทางกล้ามเนื้อที่จะเป็นนักเพาะกายอาชีพหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ ขอเพียงแค่คุณคิดได้ว่า บุคลลิคภาพที่มีสง่าราศี และการมีสุขภาพที่ดี ถือเป็นสิ่งสำคัญแล้วละก็ คุณก็เพาะกายได้เลยครับ ทุกคนก็เล่นกล้ามได้หมด และไม่ได้เบียดบังเวลาทำงานของคุณหรอกครับ |
|
ต่อไป
ผมจะแนะนำวิธีใช้เวบ
ให้มีประสิทธิภาพนะครับ
โดยในทุกๆหัวข้อที่คุณอ่าน
คุณจะพบเฟรมสีฟ้าอยู่ข้างล่าง
เป็นดังรูปข้างล่างนี้ครับ |
หน้าหลัก | (หน้ารอง....) | แผนที่เวบไซท์ | หน้า shopping | กระดานข่าว |
วิธีใช้ชุดคำสั่งข้างล่างนี้ ก็แค่เลือกกดเอาเวลาที่ต้องการครับ คำว่า หน้าหลัก ก็คือหน้าแรกเมื่อเราเปิดเข้ามาเวบผมไงครับ อันต่อมาคือหน้ารอง ขึ้นอยู่กับว่า เพื่อนเข้าไปอ่านในคอลัมน์ไหน ถ้ากดตรงนี้ ก็จะไปเริ่มต้นที่ตัวคอลัมน์นั้นเลย ไม่ต้องมาหาจากหน้าหลักอีก ต่อไปก็คือ แผนที่เวบไซท์ ตรงนี้คือเข็มทิศที่จะนำทางคุณไปได้ในทุกๆหัวข้อในเวบเพาะกายนี้เลยครับ อะไรที่คุณคิดไม่ออกว่าเคยอ่านเจอไว้เมื่อนานมาแล้ว มันอยู่ตรงไหนนะ? ให้คลิ๊กดูที่ตรงนี้ก่อนเลยครับ ถัดไปคือ หน้า shopping ก็เป็นของที่ขายในเวบน่ะครับ ถ้าช่วยอุดหนุนกันก็ดีครับ จะได้มีตังค์ไปจ่ายค่าพื้นที่อินเตอร์เนท (Host)ในแต่ละเดือน แต่ถ้าไม่อุดหนุนกันก็ไม่เป็นไรครับ เพราะยังไงผมก็มีอุดมการณ์ที่จะให้ความรู้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอยู่แล้วครับ เวบผมจึงไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายครับ เพราะก็จะมีเพื่อนสมาชิกบางส่วนช่วยอุดหนุนสินค้า ผมก็จะเอากำไรที่พอมีบ้างนั้น เอามาใช้จ่ายในการทำเวบให้คนที่ไม่มีเงินได้เข้ามาใช้ประโยชน์กันไงครับ สุดท้ายคือ กระดานข่าว ซึ่งเมื่อคลิ๊กเข้าไป จะพบกระดานข่าว ตรงจุดนี้ ถือเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนๆ ที่สนใจในเรื่องเล่นกล้ามน่ะครับ หรือบางคนอยากรู้ว่า โรงยิมที่ใกล้บ้านที่สุดอยู่ที่ไหน ก็มา post ข้อความทิ้งไว้แล้วกัน ต่อไปคือตัวเนื้อหาหลักของเวบไซท์นี้ครับ ซึ่งผมแยกไว้เป็น 3 ส่วน แยกเป็นสีๆไว้ สีแรกคือสีเขียวดังรูปข้างล่างนี้ครับ |
วิชาการ |
ส่วนแรกเป็นส่วนของ "วิชาการ" เป็นเรื่องที่ให้ความรู้ต่างๆ ผมแนะนำให้อ่านส่วนนี้ในเวลาที่ว่างๆนะครับ เพราะบางทีเราต้องใช้สมาธิเพื่อจะทำความเข้าใจ แต่คุณอย่าเบื่อที่จะหาความรู้ในส่วนนี้นะครับเพราะแต่ละเรื่องที่ผมนำมาแปลลงไว้ในนี้นั้นล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้นครับ ส่วนถัดไป ก็คือส่วนของการลงมือเล่นกล้ามจริงๆ ซึ่งผมใช้ชื่อหัวข้อในส่วนนี้ว่า "ปฏิบัติ" |
ปฏิบัติ |
เมื่อเรามีความรู้ทางด้านวิชาการซึ่งเป็นเรื่องของทฤษฎีต่างๆแล้ว ต่อไปก็คือการปฏิบัติจากสถานที่และผู้ฝึกจริงๆ ซึ่งก็คือในหัวข้อ "ปฏิบัติ" ที่อยู่ในตารางสีชมพูครับ ไปดูว่าเขาฝึกกันอย่างไร ฝึกท่าไหนกี่ครั้ง เน้นอะไรเป็นพิเศษบ้าง ซึ่งแชมป์แต่ละคนก็มีเคล็ดลับของตน เหมือนกับที่เขาเคยพูดว่า "the rule is no rule" นั่นคือ ไม่มีกฎตายตัวในเรื่องการเพาะกาย ดังนั้นเราก็จะได้รับการถ่ายทอดเทคนิคจากดาวรุ่งผู้ประสบความสำเร็จในการเพาะกายจากส่วนนี้เองครับ อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือส่วนต่อไปนี้ครับ คือส่วนของ "กำลังใจ" |
กำลังใจ |
เป็นเรื่องธรรมดาครับที่คนเราทำอะไรบางครั้งก็มีการเบื่อหรืออาจเรียกว่า ไฟตก บ้าง แต่กีฬาเพาะกายเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยแรงจูงใจ (motivate) เพราะกล้ามเนื้อเราจะโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นคุณจะต้องพยายามรักษาไฟเอาไว้ให้ได้ตลอด และวิธีชาร์จไฟให้ดีที่สุดก็คืออ่านในส่วนนี้แหละครับ เพราะผมจะคัดเอาแนวคิดหรือตัวอย่างที่อ่านแล้วเกิดไฟหรือรู้อะไรแปลกๆ ที่มันไม่ได้อยู่ในส่วนของวิชาการ หรือส่วนของการลงมือฝึก (ปฏิบัติ) เอามาไว้ในส่วนนี้ทั้งหมดครับ |
|
คุ้มค่าไหมที่จะเพาะกาย? คุณอาจเป็นหนึ่งในสองคนที่ผมกำลังจะยกตัวอย่างนี้ 1.เคยเล่นกล้ามมาก่อนเมื่อหลายปีที่แล้ว แล้วก็มีคำถามหลุดขึ้นมาในใจว่า "ทำไมฉันจะต้องลงทุน ทั้งเวลา ทั้งกำลังกาย ทั้งเงินทอง เพื่อเล่นกล้ามด้วย?" เมื่อคุณตอบคำถามตัวเองไม่ได้ คุณก็พาลหยุดเอาดื้อๆ และแล้ววันนี้ เวลาผ่านไปหลายปี คุณได้มาอ่านเวบผมแล้วเกิดมีไฟอยากเล่นกล้ามขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็กลัวว่าจะมีคำถามเดิมอันนั้นผุดขึ้นมาอีก 2.คุณไม่เคยเล่นกล้ามมาก่อน แต่ก็พอจะรู้มาบ้างว่า กว่าจะได้กล้ามเนื้อแบบนักเพาะกายนั้น มันต้องใช้เวลา ไม่ได้เดินเข้าไปซื้อในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้ ต้องลงทุนเรื่องอาหารเสริม ลงทุนพละกำลัง วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า เล่นไปเพื่ออะไร? ท้ายที่สุดแล้วก็อาจต้องเลิก คงไม่ได้เล่นไปตลอดชีวิตล่ะมั้ง? ในเมื่อรู้แล้วว่าท้ายที่สุดก็จะต้องเลิกเล่นไม่วันใดก็วันหนึ่ง ยังงั้นเราจะเริ่มทำไมล่ะ? ประเด็นของสองคนนี้คือ เขาทั้งสองคนยินดีที่จะเอาเป็นเอาตายกับการเล่นกล้าม และจะเล่นไปให้ตลอดด้วย ขอเพียงได้คำตอบเจ๋งๆ สั้นๆ เอาไว้ตอบคำถามให้ตัวเอง เวลาที่มีคำถามพวกนี้เข้ามากวนใจ ผมขอตอบให้คุณเลยแล้วกัน 4 พยางค์ สั้นๆ คือ ความ - รู้ - สึก - ดี |
|
นักวิ่งระยะสั้นในกีฬาโอลิมปิค ฝึกกันอย่างเอาเป็นเอาตาย วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า เวลาที่เพื่อนรุ่นเดียวกันไปสรวลเสเฮฮา กินเหล้า เที่ยวกลางคืน เขาเหล่านี้ก็อยู่ในลู่วิ่ง ต้องผูกตัวเองไว้กับอุปกรณ์หนักๆแล้ววิ่ง ,ต้องเล่นเวทอย่างหนัก ,ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกมาวิ่ง ทำอย่างนี้เป็นเวลาถึง 4 ปี กว่าที่จะมีกีฬาโอลิมปิคสักครั้งหนึ่ง และสิ่งที่เขาเฝ้า ฝึกหนักมาถึง 4 ปี ก็ถูกนำมาใช้ในเวลา ไม่ถึงนาที! และจริงๆแล้วต้องพูดว่า เพื่อเวลาแค่ 0.001 วินาที ที่เขาเฉือนคู่แข่งต่างหาก ความรู้สึกดี เกิดขึ้นเมื่อคุณได้รับชัยชนะ เกิดขึ้นเมื่อคุณได้รับการยอมรับ เกิดขึ้นเมื่อคุณรุ้สึกตัวว่าคุณคือคนที่ไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้น นักวิ่งเหล่านี้คงไม่ยอมลงทุนฝึกอย่างหนักเพื่อให้ได้มันมา มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มที่คุณจะทุ่มเทสิ่งที่คุณมีทั้งหมดไปเพื่อความรู้สึกอันนี้ สำนวนภาษาอังกฤษพูดไว้ว่า "คุ้มค่าที่จะตายเพื่อมัน" สำหรับคนที่เคยเล่นกล้าม แล้วเลิกไปก่อนหน้านี้ แล้วกำลังจะกลับมาเล่นใหม่ อยากจะบอกให้รู้ว่าเมื่อหลายปีที่แล้ว ก่อนที่คุณจะเลิกเล่นกล้ามนั้น ทุกๆคนรอบตัวคุณ เขาต่างพากันชื่นชมและยอมรับคุณ เพียงแต่ด้วยวัฒนธรรมแบบไทยๆ ที่มักเก็บเอาความชื่นชมเอาไว้ในใจ เขาจึงไม่ได้เดินมาเอ่ยปากให้คุณฟัง คุณก็เลยคิดว่าเล่นไปก็เท่านั้น! แล้วเลิกไป ดังนั้นมาถึงตอนนี้แล้ว ผมได้ให้คำตอบกับคุณแล้ว คุณจึงไม่ต้องไปสนใจสิ่งรอบข้างอีก ขอเพียงตัวคุณเอง ยอมรับว่า คุณ "รู้สึกดี" เวลาที่คุณ "เหยียบ" คู่แข่งของคุณติดธรณีด้วยท่าทางของคุณที่แมนสุดๆ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ กล้ามเนื้อแบบนักเพาะกาย ที่ยากจะเลียนแบบ เหตุผลแค่นี้มันก็พอเพียงแล้ว สำหรับคนที่กำลังจะเริ่ม แต่ยังละล้าละลัง ผมขอยืนยันว่าคุณจะได้พบชีวิตใหม่ ชีวิตที่มีระบบระเบียบ ชีวิตของผู้ชนะ คุณไม่จำเป็นต้องเล่นเพื่อไปประกวดที่ไหน คุณกำลังเพาะกายเพื่อ "ความรู้สึกดี" ที่จะได้เห็นคนที่รู้จักต้องอ้าปากค้าง ตอนที่เห็นความเปลี่ยนแปลงบนร่างกายคุณ เพื่อนเก่า ,หญิงที่เคยจีบแต่ไม่ติด ,คู่แข่งที่เคยสบประมาทคุณด้วยสายตา คนเหล่านี้จะเปลี่ยนมุมมองที่เคยมีต่อคุณไปโดยสิ้นเชิง ในอนาคต ตอนที่คุณเกิดคำถามว่า "คุ้มค่าไหมที่จะเล่นกล้าม" จงนึกถึงภาพนักวิ่งโอลิมปิคที่ผมเอามาให้ดูนี้ แล้วจงให้คำตอบกับตัวเองว่า ขนาดเขาฝึกหนัก 4 ปีเพื่อจะเอามาใช้ในเวลาไม่ถึงนาที เขายังทำเลย แล้วนี่การเพาะกายนั้น คุณได้ใช้ประโยชน์จากมันตลอดเวลา คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มเมื่อเอามาเทียบกัน อา.. "ความรู้สึกดี" นี่มันช่างคุ้มค่าจริงๆ |
|
|
|
|
Bodybuilder Colt Wynn displays winning form in Atlantic City |
|
คุณโคลท์ วีนน์ หนุ่มรูปหล่ออายุ 22 ปี คว้าถ้วยรางวัลรายการประกวดเพาะกายบนม้านั่ง ที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ และเป็นรายการ "โปร" คือมีใบรับรองเป็นทางการว่าได้เป็นนักเพาะกายอาชีพแล้ว สำหรับคุณวีนน์นี้ ประสบอุบัติเหตุเมื่ออายุ 17 ปี โดยตกจากต้นไม้ขณะไปล่ากวาง ทำให้เป็นอัมพาตตั้งแต่ครึ่งท่อนล่างลงไป แต่แทนที่จะคิดโง่ๆ กินเหล้าประชดชีวิต หรือไปฆ่าตัวตายแบบวัยรุ่นที่ "ควายเรียกพี่" อย่างที่เราอ่านข่าวกันทุกวันนี้ เขากลับเอาเวลาไปเพาะกาย และทำให้สังคมยอมรับได้ (ดูขนาดต้นแขนเขาเอาแล้วกัน ...สุดยอด..) กีฬาเพาะกาย เหมาะสมกับคนทุกสภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุ ,ส่วนสูง ,สภาพร่างกาย ,เพศ ขอเปรียบเทียบเช่น กีฬาวิ่ง (รวมไปถึงแข่งวิ่งด้วยวีลล์แชร์ด้วย) ถ้าคุณเลือกเส้นทางเดินนั้น สักวันหนึ่ง ด้วยเงื่อนไขอายุ ก็จะทำให้คุณแพ้เด็กรุ่นใหม่ไป แต่ถ้าคุณเลือกทางเดินสายเพาะกาย ยิ่งคุณเล่นนานเข้า คุณก็จะเริ่มเป็นปูชนียบุคคลให้กับคนรุ่นหลัง ไม่มีคำว่าแพ้เด็กรุ่นใหม่อย่างแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คุณจะต้องเหนือกว่าเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นขนาดต้นแขน ,จำนวนครั้งที่ขึ้นประกวด ,การกล่าวขานถึงโดยบรรดาคนที่เคยร่วมฝึกกันมากับคุณ เช่นเขาจะพูดถึงคุณให้เด็กหน้าใหม่ฟังว่า "หมอนั่น ฝึกหนักโคตร.. มีความมานะอุตสาหะจริงๆ เอ็งต้องเอาเป็นแบบอย่างไว้นะ" ผมรับประกันได้เลยว่า คุณโคลท์ ที่ร่างกายท่อนล่างมีปัญหาผู้นี้ จะต้องเป็นผู้ที่ถูกคนอื่น "แอบอิจฉา" อยู่ในใจไม่บ้างก็น้อย ก็ดูขนาดร่างกายของเขาแล้วกัน เห็นก็รู้ทันทีว่าต้องผ่านการฝึกอย่างหนักมา ยากที่จะเลียนแบบ โดยเฉพาะอ้ายพวกเด็กที่ทำอะไรจับจดไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เห็นร่างกายของคุณโคลท์นี้แล้ว ก็ต้องอิจฉาอยากจะมีหุ่นแบบนี้บ้าง เพราะตัวเองทำแบบคุณโคลท์ไม่ได้นั่นเอง เลือกเล่นกีฬาเพาะกายเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะต่อไปในภายภาคหน้า ด้วยเงื่อนไขอายุ หรืออุบัติเหตุไม่คาดฝันแบบคุณโคลท์ คุณก็ยังเพาะกายต่อไปได้ตลอด ไม่มีเหตุให้ต้องหยุดหรือเปลี่ยนแปลงกีฬานี้ ไปเล่นกีฬาอื่นแต่อย่างใดเลย ร้อยลี้ย่อมมีก้าวแรก ออกเดินทางก่อน ย่อมประสบความสำเร็จก่อนครับผม |