ราชสีห์ในกลุ่ม
จะมีแค่ตัวเดียวเท่านั้น! |
|
ให้น้ำเชื้อ
และให้ความคุ้มครองแก่เพศเมียทั้งหลายที่ตัวเองดูแลอยู่
|
|
ตัวผู้อื่นที่จะอยู่ร่วมกันได้ จะต้องเป็นเพียง "บริวาร"
ของราชสีห์เท่านั้น
มิอาจตีตัวเทียบเท่าราชสีห์ได้ |
ราชสีห์เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาให้เป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่าตัวอื่นๆในกลุ่ม
เป็นเพศผู้เพียงตัวเดียวในกลุ่มเท่านั้น
หากแม้นมีลูกชายเกิดมา เมื่อโตขึ้น ก็จะต้องแยกกลุ่มออกไป
ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ถ้าอยู่ก็ต้องโดนฆ่าทิ้ง
นั่นเพราะราชสีห์ต้องคงหลักความเป็น "ตัวผู้" และความเป็น
"ผู้นำ" ไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ถ้าท่านไม่กล้าเป็นผู้นำ
ไม่กล้าเป็นผู้ที่ดูดีที่สุดในกลุ่ม ก็จงยอมไปเป็น
"ตัวเมีย" ให้ราชสีห์คุ้มครองเสียดีกว่า
แต่หากท่านอยากดูสง่า อยากดูดีที่สุดในกลุ่ม
ท่านจะต้องบำเพ็ญเพียร สร้างร่างกายให้แข็งแกร่งเพื่อ
"ฆ่า" ตัวผู้ตัวอื่นในกลุ่มนั้นลงเสีย
แล้วขึ้นเป็นราชสีห์แทน
แล้วทำหน้าที่ให้น้ำเชื้อกับสัตว์ตัวเมียรอบๆท่าน
และคอยกำราบตัวผู้ตัวอื่นเอาไว้ให้อยู่หมัด
|
สัญชาติญาณดิบของบรรพบุรุษเรา
จะทำให้เพศตรงข้ามมอง "ตัวผู้" ที่ความแข็งแกร่งก่อนเสมอ |
อย่าสะเออะไปรับปากเพศเมียเลยว่าจะดูแลปกป้องเขา
ทั้งๆที่ตัวเองผอมกระหร่อง หรืออ้วนเป็นหมูตอน
เอาตัวเองแทบไม่รอด
ผมไม่เคยโทษเลยว่าทำไมนักกล้ามถึงดูเหมือนคนเจ้าชู้
นั่นก็เพราะร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา
ทำให้เขาดูเด่นขึ้นมาจากคนรอบข้าง
ดั่งราชสีห์ที่มีตัวเดียวในฝูง
และนั่นย่อมส่งผลให้เพศตรงข้าม รู้สึกถึงเทสทอสเทอโรน
ฮอร์โมนเพศชายอันพุ่งพล่านอยู่ในตัวของเขา
จึงยากที่จะหักห้ามใจคิดไปไกลเตลิดเปิดเปิง
เพียงแต่ด้วยกรอบสังคม ทำให้มิอาจเดินมาพูดกับคุณตรงๆได้
จึงได้แต่แอบมองเพื่อรอโอกาสเข้าใกล้เท่านั้น
|
ราชสีห์ไม่จำเป็นต้องหล่อ ,ไม่จำเป็นต้องสูง
ขอให้เพียงฉีกเนื้อคู่ต่อสู้ได้เป็นชิ้นๆเท่านั้น |
คำว่า "ฉีก" คำว่า "ฆ่า"
ที่ผมใช้ในที่นี้ เป็นเพียงคำอนุมาน มันหมายถึง
การมุนานะสร้างมัดกล้าม เพื่อไปบดบังรัศมีคนรอบข้างคุณ
ซึ่งมันก็เหมือน "ฆ่า" คนๆนั้นให้ตายทั้งเป็น
ไม่ต้องสนใจหรอกว่าคุณจะเกิดมาสูง ,ต่ำ ,ดำ ,ขาว หล่อน้อย
หล่อมาก
ราชสีห์จะไม่เสียเวลาคิดหรือสนใจกับสิ่งที่มันติดตัวมาอยู่แล้ว
แต่จะตั้งใจลับเขี้ยวตัวเองอยู่เป็นนิจ คุณก็เช่นกัน
จงบำเพ็ญเพียรสร้างมัดกล้าม ยิ่งคุณมีมัดกล้ามมากขึ้น
ระดับฮอร์โมนเพศชายในตัวคุณก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
คุณจะยิ่งมีสัญชาติญานดิบของราชสีห์อยู่ในตัว
ลองมองภาพข้างบนแล้วคิดว่า
คุณจะกล้าจ้องตาราชสีห์ตัวนี้ไหม ถ้ามันมานั่งอยู่ข้างๆคุณ
ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น
ถ้าคุณสร้างร่างกายคุณจนกำยำแข็งแกร่งด้วยความอุตสาหะ
ไอ้พวกขี้ยาหรือเด็กเมื่อวานซืนทั้งหลายก็ไม่กล้ามองตาคุณตรงๆ
และคุณก็อาจจะต้องมีภารกิจเพิ่มอีกอย่างหนึ่งคือต้องเข้าไปอยู่ในจินตนาการของสาวๆรอบตัวคุณในขณะที่เขาทำอะไรบางอย่าง...
จงเชื่อ.. จงอย่าได้เคลือบแคลงใจ...
ผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงจุดที่ราชสีห์ยืน
แต่ผมเคยยืนอยู่ในจุดที่ "โดนฆ่า" ต่างหาก
ผมถึงบอกความรู้สึกได้ว่าคนที่ "โดนฆ่า" มันเป็นอย่างไร
ย้อนหลังกลับไปเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว ผมยังจำได้แม่น
วันนั้นเป็นวันเสาร์ ผมในฐานะนักเรียนนายร้อยตำรวจ
สูง 170 ซม. (บัตรประชาชนเป็น 174 ซม.นะ) หน้าตาพอใช้
อนาคตไกล แถมเล่นกล้ามมาแล้วถึงสองปี
มีกล้ามขึ้นจนโชว์ชาวบ้านได้
ก็เลยไปถอดเสื้อเล่นกล้ามอยู่ที่สวนลุมพินี
ตอนนั้นมันมีที่ออกกำลังอยู่แถวหน้าห้องน้ำ
เวลามีสาวๆจะเดินเข้าห้องน้ำ ก็ต้องผ่านตรงที่ผมเล่นกล้าม
ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นเวลาประมาณ 10.00 น.
แรกๆก็มีแต่ผมคนเดียวที่ดูหนุ่มแน่น มีมัดกล้าม
นอกนั้นข้างๆก็จะมีพวกอ้วนๆ แก่ลงพุง
มันเลยยิ่งทำให้เราดูเป็นราชสีห์ขึ้นมาทีเดียว
แต่อย่างหนึ่งที่รับรู้คือ ไม่เห็นมีใครเดินมาถามเลยว่า
คุณเป็นนักเรียนนายร้อยหรือ? หรือว่าคุณนามสกุลอะไร?
หรือว่าที่บ้านคุณรวยมากไหม? เรียนเก่งไหม? เป็นหมอเหรอ?
เป็นนักกีฬาบาสของมหาวิทยาลัยหรือเปล่า?
สัจธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ
ถึงผมจะเป็นอะไรที่ผมอยากโชว์มาทั้งหมด
ก็ไม่มีใครเดินมาถามเลย
นั่นหมายความว่าเมื่อคุณอยู่ในสังคมร่วมกับคนที่คุณไม่รู้จัก
เขาจะมองคุณด้วยสายตาที่มองเห็นเท่านั้น
ไม่มีใครสนใจประวัติของคุณหรอก ดังนั้น ถ้าอยากเด่น
ก็ต้องทำกับสิ่งที่เขาเห็นเท่านั้น
ก็คือสร้างกล้ามให้ไปทิ่มลูกตาเขานั่นเอง
เดี๋ยวครับ ..ย้อนกลับมาเรื่องที่ผมกำลังเป็นราชสีห์ต่อ
เล่นไปได้ครึ่งชั่วโมง
กล้ามเนื้อกำลังพองสวยงามเลย
มีผู้ชายคนนึ่ง
เตี้ยกว่าผมเป็นสิบเซ็นได้ (หรือมากกว่าด้วยซ้ำ)
เดินถอดเสื้อมา ใส่ยีนส์รัดรูป กล้ามก็ไม่ชัดเท่าไร
จำได้ว่ามองไม่ค่อยเห็นกล้ามท้องด้วยซ้ำ
แต่ขนาดต้นแขน กับขนาดหน้าอกนี่สิ ใหญ่และเต่งตึง โค..ต..ร
คงไปปั้มตรงมุมไหนของสวนสาธารณะมาก่อน
แล้วเดินมาตรงนี้เพื่อ"ฆ่า" ผมโดยเฉพาะ
ผมตอนนั้น ซึ่งกำลังรู้สึกว่าตัวเองเป็นราชสีห์อยู่ดีๆ
มาถึงตอนนี้เหมือนโดนราชสีห์อีกตัวซึ่งแข็งแรงกว่ากัดกระชากเป็นชิ้นๆ
ความมั่นใจก่อนหน้านี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง
รีบเอาเสื้อกล้ามมาใส่เพื่อปิดรูปร่างตัวเองทันที
จากนั้นก็กุลีกุจอเก็บอุปกรณ์ที่เอามาด้วยเข้ากระเป๋า
แล้วรีบเดินจากมาทันที
แต่ก็ยังแอบชายตามองโดยไม่ให้เขารู้ตัว
เพราะมันอดมองกล้ามหน้าอกกับต้นแขนหมอนี่ไม่ได้จริงๆ..
นั่นคือความรู้สึกของเพศผู้ กับเพศผู้ด้วยกัน
ที่ต้องยอมหลบหลีกให้ตัวที่แข็งแรงกว่าแต่โดยดี
ส่วนความรู้สึกของเพศเมียที่มีต่อเพศผู้ที่แข็งแกร่งนั้น
ผมก็ไม่ได้คิดเอาเองเช่นกัน
แต่ผมจะลองให้คุณมองมุมกลับกันอย่างนี้
สมมติว่าคุณผู้ชายนั่งอยู่ที่ห้างหรูๆสักที่หนึ่ง
แล้วคุณเห็นสาวที่ใส่เสื้อรัดรูป หน้าอกหน้าใจสุดยอด
เอวกิ่ว สะโพกผาย ขาเรียวยาว
อันเป็นลักษณะเด่นของผู้หญิงที่คุณอยากมีอะไรด้วยเลย....
เดินผ่านมา
คุณจะกล้าเข้าไปบอกเขาไหมล่ะว่าผมอยากมีอะไรกับคุณน่ะครับ..
ไม่กล้าใช่ไหม ต้องเก็บเอาไว้ในใจใช่ไหม นั่นไง คำตอบ
ตัวผู้หญิงเองก็ไม่รู้ว่าไปทรมานใจชายอะไรขนาดนั้น
ก็เพราะไม่มีใครกล้าไปพูดกับเธอ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น
มองมุมกลับ ถ้าคุณมีหุ่นล่ำ กล้ามไบเซบลอดแขนเสื้อออกมาเลย
ก้นแอ่นเล็กน้อยอันมาจากกาบริหารท่า
Squat อย่างหนักมา
กล้ามหนอกคอดันปกเสื้อให้สูงขึ้นจนไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆรอบข้าง
คุณคิดบ้างไหมว่าจะไปทรมานใจสาวๆที่มองเห็นขนาดไหน
เพียงแต่เขาไม่กล้ามาบอกคุณเท่านั้นเอง
(เหมือนกับตอนที่คุณไม่กล้าไปบอกอะไรกับสาวเซ็กซี่ที่เห็นนั่นแหละ
) มองภาพออกหรือยังครับ ... งานนี้
ผมไม่พูดถึงหนุ่มฟิตเนสทั้งหลายหรอกครับ กล้ามคม,ท้อง
sixpack จริง
แต่ใส่เสื้อแล้วก็ไม่มีใครเห็นแล้ว
หรือว่าคุณจะกล้าถอดเสื้อเดินกลางห้างล่ะ..
ในสายตาผม หนุ่มฟิตเนส กับหนุ่มนักกรีฑา กับหนุ่มนักบัลเล่
ใส่เสื้อมาเดินห้างแล้ว แยกไม่ออกเลยครับ
มันต้องนักเพาะกายเท่านั้น ถึงจะเป็นราชสีห์จริง
แกร่งด้วยความมานะอุตสาหะ
แกร่งด้วยความเพียรในการบริหารร่างกาย พร้อมที่จะ "ฆ่า"
ตัวผู้ที่อยู่รอบตัวให้อาสัญได้ด้วยการเดินผ่านเท่านั้น
|
|