- หน้า 4 - |
ต้องเตรียมอะไรบ้าง
สำหรับการเพาะกาย ? 1. อันดับหนึ่งเลย คือจิตใจของคุณนั่นเอง คุณต้องทำใจให้รักการเพาะกาย แล้วอย่างอื่นมันจะตามมาเอง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา คนที่ผมพบมากที่สุดก็คือคนที่บ้าเป็นพักๆ ดูเหมือนจะสนใจการเล่นกล้ามมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน คนเหล่านี้ก็จะหนีหน้าไปเลย นั่นเป็นเพราะคนเหล่านี้ไม่รู้จักทางสายกลาง เวลาฝึกหนัก ก็ฝึกติดต่อกันอาทิตย์ละ 7 วัน วันละ 3 ชั่วโมง แต่พอเลิก กลับหันหลังให้ลูกเหล็กไปเลย 2. เรื่องอาหารเสริม คุณอาจเคยได้ยินมาว่า หากเราทานอาหารสมบูรณ์แล้ว อาหารเสริมก็ไม่จำเป็น นั่นก็ถูกต้อง แต่คำว่าสมบูรณ์นั่น คือถึงขนาดไหนล่ะครับ และถ้าจะทำให้ถูกหลัก คุณจะต้องมานั่งนับแคลอรี่สำหรับอาหารแต่ละอย่างในทุกๆมื้อด้วย ซึ่งถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้นผมว่าใช้อาหารเสริมนั่นแหละดีแล้ว อีกทั้งความจริงมันก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย เพียงวันละ 15 บาท คิดว่าไม่น่าจะหนักเท่าไรนะครับ 3.สถานที่ออกกำลังกาย อาจจะเป็นที่บ้านหรือที่ยิมก็ได้แล้วแต่ถนัดครับ ตรงนี้ไม่มีข้อสรุปว่าที่ไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณมากกว่า ถ้าฝึกที่ยิมก็จะดีตรงที่ได้พบคนมากหน้าหลายตา มีการประชันกล้ามกันซึ่งถือเป็นการเพิ่มไฟในการเล่นกล้ามอย่างหนึ่ง ส่วนที่บ้าน ก็จะดีตรงที่คุณจะทำอะไรก็ได้ไม่มีใครมาแย่งลูกน้ำหนักที่คุณกำลังเล่นอยู่ และจะเล่นกี่โมงก็ได้ครับ |
|
|
|
![]() |
(ภาพบน) ภาพ Dave Drapper ถ่ายไว้ในรายการประกวดมิสเตอร์อเมริกา ปี 1965 (อายุ 23 ปี) |
![]() |
(ภาพบน) ภาพ Dave Drapper ถ่ายตอนอายุ 63 ปี |
จากภาพข้างบนนี้ เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า แม้ว่านักเพาะกายจะเล่นเพาะกายอย่างหนักมาตั้งแต่หนุ่ม (เช่น Dave Drapper ในภาพข้างบน ที่เล่นกล้ามติดต่อกันเกือบ 50 ปี ตั้งแต่สิบแปด ยันหกสิบกว่า) แต่เขาก็ยังเล่นกล้ามได้โดยตลอด โดยที่ไม่เป็นอันตรายเลย ทำไมถึงรู้ว่าเล่นหนัก? ก็เพราะคนที่จะได้เป็นแชมป์มิสเตอร์อเมริกาได้ ก็ต้องเล่นหนักพอสมควร จริงไหมครับ? "ในขณะที่" ถ้าเป็นกีฬาบอล หรือบาส แล้วคุณเล่นอย่างหนักบ้าง ตามสไตล์การฝึกของกีฬาบอลและบาส คุณคิดว่าคุณจะฝึกอย่างนั้นติดต่อกันได้กี่ปีครับ? สามารถเล่นลากยาว 50 ปีแบบกีฬาเพาะกายได้ไหม? |
|
การเพาะกาย มีการคิดค้นมาตั้งแต่โบราณแล้ว มีบางคนเข้าใจผิดว่า ถ้าฝึกแบบนักเพาะกายที่เห็นในตำราต่างๆแล้วจะทำให้ร่างกายใหญ่เกินไป ดังนั้นถ้าใช้การวิดพื้น ,ซิทอัพ ธรรมดาก็จะทำให้ได้กล้ามสวยๆ พอดีๆไม่ใหญ่เกินไป และคิดต่อไป (คิดเอาเอง) ว่าพวกนายแบบทั้งหลายที่ถ่ายรูปไว้ในนิตยสารต่างๆ ก็คงใช้วิธี วิดพื้น หรือซิทอัพนี่ละมั้ง การแต่งตำราการเล่นกล้ามเองอย่างนั้น เป็นการเสียเวลาเปล่า เพราะมีคนพยายามหาวิธีเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้สวยงาม ด้วยการลองผิดลองถูกมาก่อนหน้าคุณเป็นพันปีแล้ว ดังนั้นเราไม่จำเป็นจะต้องย้อนยุคกลับไปลองผิดลองถูกด้วยตัวเองอีก แม้ว่าการแก้ปัญหาต่างๆ จะเริ่มด้วยการตั้งโจทย์แล้วให้คำตอบกับตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นอยากมีกล้ามหน้าอก ดังนั้น การวิดพื้นก็คือการออกแรงที่กล้ามอกโดยตรง ก็น่าจะทำให้กล้ามอกหนา และนูนขึ้นมา ลองดูภาพข้างบนสมัยอียิปต์เป็นพันปีก่อน เราเห็นตอนนี้แล้วก็คงนึกตลกว่า การยกถุงทรายโยนขึ้นและลงเช่นนั้น จะทำให้กล้ามขึ้นได้อย่างไร แต่ในยุคสมัยนั้น วิธีนี้ก็คือการตอบโจทย์ว่าทำอย่างไรจะสร้างกล้ามแขน กล้ามหัวไหล่ อย่างที่ผมยกตัวอย่างมาเมื่อสักครู่ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น ถ้าคุณไม่อยากถูกมองเป็นตัวตลกเหมือนในภาพข้างบนนี้ ก็จงอย่าแต่งตำราเล่นกล้ามเอง จริงๆแล้ว การเล่นกล้าม ไม่ว่าจะเอาแบบใหญ่โตมโหฬารระดับกล้ามเนื้อเป็นยักษ์ หรือจะเอาแบบกล้ามสวยคมกริบเป็นนายแบบ ก็ล้วนแต่ใช้หลักบริหารและเครื่องมือเดียวกันโดยสมบูรณ์ แตกต่างกันก็เพียง "ปริมาณ" ที่ใช้ เช่นปริมาณการทาน (นักเพาะกายร่างยักษ์ทานไข่วันละ 60 กว่าใบอาทิตย์ละ 7 วัน) หรือปริมาณลูกน้ำหนักที่ใช้ (ในบางท่า นักเพาะกายร่างยักษ์ถือดัมเบลล์ 1 ลูกในมือ 1 ข้างหนักถึง 60 กิโลกรัม) ขอให้เปิดใจ รับฟังวิธีการเล่นกล้ามที่มีผู้คิดค้นมาก่อนหน้าเรามานานแล้ว เพราะพวกท่านเหล่านั้นได้ลองผิดลองถูกแทนเรามานานมาก การเล่นกล้ามถือเป็นวิทยาศาสตร์ได้ เพราะทำได้จริง ให้ผลกับทุกผู้ทุกคนที่ทำถูกทาง ไม่ใช่เรื่องเร้นลับ หรือความโชคดี หรือปาฎิหารย์ แต่อย่างใด ซึ่งเวบของผม ได้รวบรวมรายละเอียดทุกอย่างเอาไว้พร้อมมูลแล้วครับ รอเพียงคุณเข้ามาเปิดอ่าน เพื่อนำวิธีการฝึกที่ถูกต้องไปใช้เท่านั้นเอง |
|
||||
|
|
ภาพข้างบนนี้คือกล้ามน่องของคุณ เฟล็กซ์ วีลเลอร์ (คลิ๊กเพื่อดู) ที่มีขนาดถึง 20 นิ้ว และมีรูปทรงที่สมบูรณ์แบบมาก จุดที่ผมเอาเรื่องนี้มาคุย ก็เพื่อจะพยายามทำลายความคิดในแง่ลบเกี่ยวกับวงการนี้ จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องอะไรนั้น เดี๋ยวอ่านกันต่อไปครับ (เรื่องนี้เกิดขึ้นหลายปีแล้ว แต่ก็สามารถนำมาเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดี) อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีเพื่อนผู้เข้าแข่งขันด้วยกันคือ คุณ ชอร์น เรย์ พูดเล่นๆทำนองตลกๆว่า "ไอ้เจ้าความสวยของน่องคู่นี้ น่าจะมาจากการศัลยกรรมละมั้ง ฮ่าๆๆ" คุณเฟล็กซ์ ก็ไม่ได้ตอบอะไร ก็ยังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ (ตามปกติเฟล็กซ์ เป็นคนโลกส่วนตัวสูงอยู่แล้ว พวกแชมป์ทั้งหลายมักจะเป็นอย่างนี้ แต่คุณชอร์น เรย์ เป็นนักเพาะกายที่ชอบเป็นพิธีกร ชอบเข้างานสังคม) พอเฟล็กซ์ ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้แก้ข่าวอะไร ข่าวก็เริ่มหนาหูขึ้น ตอนหลังเรื่องเริ่มลาม (ผมจำได้ว่าผมอ่านนิตยสารเล่มที่เรย์แซวเฟล็กซ์เรื่องศัลยกรรมนั้น ประมาณเกือบ 3 เดือนถึงมีการมาแก้ข่าวกัน - เพราะนิตยสารนี้ออกเดือนละเล่ม) แม้ว่าเฟล็กซ์จะพูดในอีกสามเดือนต่อมาว่า "ผมคิดว่าเขาพูดกันแค่ ขำ..ขำ.. และผมก็ไม่ได้ทำศัลยกรรมแต่อย่างใดเลยครับ" แต่ไฟลามทุ่งนี้ ก็หยุดไม่อยู่เสียแล้ว ผลที่ออกมาก็เป็นไปดังรูปข้างล่างนี้ |
|
ผู้บริหารของสมาพันธ์ IFBB (ในขณะนั้น) คนทางซ้าย และประธานสมาคม NPC (ในขณะนั้น) คนทางขวา (ส่วนเฟล็กซ์ ยืนอยู่ตรงกลาง) มาถ่ายรูปข้างบนแบบอารมณ์ดี แต่ความจริงแล้ว มันชี้ให้เห็นว่า ผู้บริหารระดับบิ๊กเบิ้มของวงการเพาะกายโลก ถึง 2 คน ลงมาตรวจสอบน่องของเฟล็ก วีลเลอร์ ด้วยตัวเอง และยืนยันว่าไม่มีร่องรอยการทำศัลยกรรมแต่อย่างใด ทั้งหมดก็เพื่อสยบข่าวลือ และรับประกันได้เลยว่าไม่มีการรู้เห็นเป็นใจกันแน่ๆ เพราะถ้าเฟล็กซ์ทำศัลยกรรมน่องจริง ผู้บริหารทั้งสองคน คงไม่กล้าเอาตำแหน่งบิ๊กๆของตัวเองมาช่วยเฟล็กซ์หรอกครับ ประเด็นที่ผมจะบอกคุณก็คือ เวลาที่เพื่อนสมาชิกชื่นชอบซูเปอร์สตาร์ใครก็ได้สักคน ผมขอบอกว่าคุณไม่ต้องเคลือบแคลงใจหรอกว่าเขาจะใช้สเตอรอยด์หรือทำศัลยกรรมหรือไม่ เพราะในระบบของวงการเพาะกายอเมริกันนั้น เขาเป็นระบบแบบ ตรวจสอบกันเอง แบบเข้มข้น (เหมือนในตัวอย่างเรื่องนี้) เนื่องจากมันมีผลต่อรายได้ที่อาจเพิ่มขึ้นหากเขาได้ทำลายคู่แข่งลงได้ ดังนั้น จึงยืนยันได้ว่านักเพาะกายระดับซูเปอร์สตาร์ เขาสร้างรูปร่างมาได้อย่างนั้นจริงๆ ในทางกลับกัน "เวบเกย์" ที่มีผู้ชาย หล่อโคตรๆ กล้ามสวยมากๆ สมมาตรกันหมดทั้งซ้ายและขวา ร่องหัวไหล่ (ตรงที่เชื่อมต่อกับหน้าอก) ไม่มีเลย คือมันเป็นกล้ามอกยาวเป็นผืดไปสุดที่หัวไหล่ด้านข้างทั้งสองข้าง เป็นหน้าอกที่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำไมพวกนี้ไม่มีรายชื่อติดหู หรือได้เป็นซูเปอร์สตาร์กับเขาบ้าง ทั้งๆที่วัดกล้ามเนื้อกันชิ้นต่อชิ้นแล้ว ได้ระดับมิสเตอร์ยูนิเวอร์สสบายๆ นั่นก็เพราะเขามีชนักติดหลังเรื่องการทำศัลยกรรม และการใช้สเตอรอยด์นั่นเอง จึงไม่กล้าขึ้นประกวดเพราะกลัวตรวจสอบ - มองภาพออกหรือยังครับ สมมติว่าคุณขุดหลุมหาสมบัติ โดยมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าตรงที่กำลังขุดนี้ จะต้องมีสมบัติแน่ๆ ด้วยความเชื่อมั่นอย่างนั้น ทำให้คุณขุดลงไปได้ลึก 20 เมตร แต่แล้ว จู่ๆก็มีคนหนึ่งมาพูดให้คุณฟังจากปากหลุมว่า ตรงนี้ไม่มีสมบัติหรอก มันเป็นแค่ข่าวลือ ไม่อย่างนั้นนายก็ต้องเจอร่องรอยบ้างสิว่ามันน่าจะมีอะไรเกี่ยวกับสมบัติบ้าง พอคุณฟังอย่างนั้น ความเชื่อมั่นของคุณลดลงไปแล้วเลิกขุดต่อ ปีนออกจากหลุมกลับบ้านไปเลย แต่ปรากฏว่าจริงๆแล้วหีบสมบัติมันอยู่ห่างจากผิวดิน 20.05 เมตร ซึ่งความเชื่อมั่นเดิมของคุณ ทำให้คุณขุดลงไปได้ 20 เมตร เหลือเพียง ลงจอบอีกแค่ครั้งเดียว คุณก็จะได้เห็นสมบัติอย่างที่ต้องการแล้ว แต่คุณกลับเสียโอกาสนี้ไปเพียงเพราะขาดความเชื่อมั่นที่จะขุดต่ออีกครั้งเดียวเท่านั้น ความผิดมันไม่ได้เกิดจากคนข้างนอกมันมาเป่าหูคุณ เพราะเรื่องอย่างนี้มันมีทุกวงการอยู่แล้ว แต่ความผิดคือ คุณขาดความเชื่อมั่นในตัวคุณเองต่างหาก มีคนที่เล่นกล้ามหลายคน เล่นกล้ามอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ก็หุ่นไม่สวยเหมือนซูเปอร์สตาร์ที่เขาชื่นชอบสักที ทันใดนั้น ก็มีคนมาพูดให้ฟังว่า ไอ้ซูเปอร์สตาร์ที่นายชื่นชมน่ะ มันใช้สเตอรอยด์ ถ้านายอยากได้หุ่นอย่างมัน นายก็ต้องใช้สเตอรอยด์เหมือนมันสิ - ได้ฟังเพียงเท่านี้ คุณทิ้งจอบ แล้วปีนออกจากหลุมไปเลย ฟังให้ชัดๆ จูนความคิดใหม่ตามผมให้ดีนะครับ นักเพาะกายระดับซูเปอร์สตาร์ที่มีชื่อเสียงนั้น คุณเชื่อมั่นได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาไม่ได้ใช้ยา เขาไม่ได้ทำศัลยกรรม เพราะเขามีระบบตรวจสอบกันเองแบบที่ผมยกตัวอย่างเรื่องกล้ามน่องของเฟล็กซ์ให้ฟัง ปัญหาของคุณคือ ไอ้การที่คุณคิดว่าคุณเล่นกล้ามอย่างเป็นบ้าเป็นหลังนั้น จริงๆแล้วมันอาจจะเล็กน้อยสำหรับซูเปอร์สตาร์พวกนี้ เขาอาจมีความพยายามมากกว่าที่คุณคิดเยอะ อย่าง Don Long นักเพาะกายคนหนึ่ง ก็ไม่ได้กินข้าวในวันขอบคุณพระเจ้ากับครอบครัวเขา มาถึง 5 ปีเต็ม เพียงเพราะว่ามันเป็นช่วงเก็บตัวที่จะต้องขึ้นประกวด และเขาต้องใช้ชีวิตในโรงยิมแบบจริงจัง จนต้องตัดครอบครัวไปเลย ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือ ต้องตัดความเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับซูเปอร์สตาร์ในใจของคุณออกไป เพราะประโยชน์ที่ได้รับก็คือคุณจะมีกำลังใจที่จะขุดหลุมหาสมบัติต่อไป ไอ้การขุดหลุมหาสมบัติน่ะ ถ้าไม่เจอสมบัติก็ไม่ได้อะไรเลย แต่การเพาะกายโดยยึดซูเปอร์สตาร์เป็นกำลังใจน่ะ ถึงคุณไม่ได้เป็นแชมป์อย่างเขา แต่คุณก็จะได้สุขภาพ ,รูปร่างที่แตกต่างจากคนทั่วไปที่คุณใช้ชีวิตประจำวันร่วมด้วยเป็นของขวัญอยู่แล้ว ไม่มีเสีย มีแต่ได้ กับได้ครับ ปล.ระวังการขายสเตอรอยด์ในโรงยิม โดยอัดความคิดว่าหนทางเดียวที่จะเป็นแชมป์ได้ คือต้องใช้สเตอรอยด์นะครับ บทความที่ผมเขียนให้คุณอ่านข้างบนนี้ ขอให้ระลึกไว้เสมอแล้วคุณจะรอดพ้นจากยาอันตรายพวกนี้ครับ จำไว้ว่าทุกคนสามารถที่จะทำให้ร่างกายสวยเหมือนซูเปอร์สตาร์ที่คุณชอบได้ เพียงแต่ว่าคุณได้ฝึกหนัก และมีวินัยในการฝึกเทียบเท่ากับพวกเขาหรือยังเท่านั้นน่ะครับ |
![]() |
(ภาพบน) คงไม่เถียงว่า คน "หน้าตาธรรมดา ความสูงธรรมดา" แต่เล่นกล้าม ดูจะเป็นจุดดึงดูดความสนใจได้ดีนะครับ ลองดูสีหน้าของคนที่อยู่รอบๆนักเพาะกาย โดยเฉพาะคนที่กำลังแตะที่แขนนักเพาะกายคนนี้ (ทางด้านซ้ายของรูป) ดูเอาแล้วกัน |