|
|
- หน้า 4 - |
|
หลังจากเรื่องหนังผ่านไป
เอ็ดก็มามีชื่อเสียงอีกครั้งกับสมุดรวมภาพถ่ายขาวดำ
ซึ่งรวบรวมภาพเขามาจากภาพยนต์เรื่อง
Pumping Iron
โดยมีหน้าปกเป็นตัวเอ็ดเอง
กำลังชูมืออย่างดื่มด่ำกับชัยชนะที่ได้รับจากรายการมิสเตอร์อเมริกา
เอ็ดพูดถึงเรื่องนี้ว่า
"นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำที่น่าปลื้มของผม
กว่าที่จะได้ยินเสียงประกาศจากกรรมการว่า
ผมได้เป็นมิสเตอร์อเมริกา
ผมต้องเข้าแข่งถึง 5 ปีซ้อน
คิดดูว่าหากผมเลิกเสียตั้งแต่ปีที่
3 ก็คงไม่มีมิสเตอร์อเมริกาที่ชื่อเอ็ด
คอร์นี่
นี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่จะสอนคุณว่า
หากต้องการสิ่งไหนแล้ว
จงเชื่อมั่นและก้าวต่อไป
อย่าท้อแท้หรือสิ้นหวัง
สักวันหนึ่งเราจะต้องได้มันมาครอบครอง
ไม่ว่าจะต้องเสียเวลากี่ปีก็ตาม" หลังจากหนังเรื่อง Pumping Iron เอ็ดก็เข้าแข่งขันรายการต่างๆเรื่อยมา และเอาชนะได้ถ้วยมานับไม่ถ้วน ยกเว้นก็แต่รายการโอลิมเปียเท่านั้น ตอนที่เขาไม่ได้เข้าแข่งขันแล้ว มันก็ไม่ได้หมายถึงว่าเขาจะเลิกเล่นกล้าม เขาเล่นกล้ามเพราะความรักอย่างจริงใจ ไม่ต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้างเพื่อแสดงความขี้เกียจออกมา เอ็ดบริหารพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องอายุไล่เลี่ยกับเขาคือ Mike Dayton และในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เอ็ดก็ไปช่วยเป็นกรรมการตัดสิน รายการประกวดเพาะกายของ Mike ที่แคลิฟอร์เนียด้วย นอกจากนี้ เอ็ดยังแบ่งปันความรู้และช่วยในการฝึกให้แก่ เจมส์ เมนโดซา นักเพาะกายหน้าใหม่ด้วย และยังไม่นับรวมถึงการเข้าประกวดของเอ็ด ในอีกหลายๆรายการปีที่แล้วด้วย เอ็ดยืนหยัดบริหารมาโดยตลอด สิ่งที่เขาได้มาคือ รูปร่างที่ดี ,ความนับถือตัวเอง ,จิตวิญญาณของการไม่ยอมแพ้ ทั้งหมดนี้ที่ทำได้ ก็เพราะความรักที่มีต่อการเพาะกายนั่นเอง และไม่ว่าจะจัดให้มีการประกวดมิสเตอร์โอลิมเปียสำหรับผู้สูงอายุหรือไม่ เอ็ดก็ยังคงบริหารให้รูปร่างสมบูรณ์ตลอดไป ไม่ใช่บริหารเพื่อเข้าแข่งขัน คุณเห็นไหมล่ะว่า ชัยชนะของเอ็ด เกิดขึ้นไม่ว่าเขาจะขึ้นแข่งหรือไม่ก็ตาม เพราะเขาชนะด้วย "ทัศนคติ" ของเขาตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว |
|
|
|
|
|
บริหารด้วยหลักการพื้นฐาน
-
ผมพูดอยู่เสมอแหละว่า
หลักการอะไรที่อาโนลด์
ชวาลเซเนกเกอร์
ใช้แล้วได้ผล
มันก็จะได้ผลกับคุณและผมด้วย
ที่ผมกำลังพูดถึงก็คือ
บริหารสามเซทต่อหนึ่งท่า
,บริหาร 10 ครั้งต่อหนึ่งเซท
,บริหารกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่ให้ได้
3 - 4 เซท
บริหารกล้ามเนื้อชิ้นเล็กให้ได้
2 - 3 เซท และทั้งหมดนี้
ต้องบริหารด้วยความเข้มข้น
110 % 