|
ดัชนี-6 / ดัชนี-ศัพท์เพาะกาย / ดัชนี-ศัพท์-เรียง-อักษร / ดัชนี-อักษร-P / Positive Portion - ส่วนของจังหวะการออกแรง |
| ในครั้งนี้
ผมจะพูดถึงเรื่อง ส่วนของ "จังหวะการออกแรง"
หรือที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Positive Portion นะครับ
เวลาที่เรากำลังเล่นกล้ามอยู่นั้น มันจะมีอยู่ 2 จังหวะหลักๆ คือส่วนของจังหวะออกแรง ( Positive Portion ) และส่วนของจังหวะผ่อนแรง ( Negative Portion ) และเนื่องจากการออกแรง หรือผ่อนแรงนั้น มันจะใช้กับท่าที่ "ดัน" และท่าที่ "ดึง" ดังนั้น การจะบอกว่าจังหวะไหนเป็น Positive Portion หรือจังหวะไหนเป็น Negative Portion จึงต้องดูว่าท่าที่กำลังบริหารอยู่นั้น เป็นท่าที่บริหารด้วยการ "ดัน" หรือเป็นท่าที่บริหารด้วยการ "ดึง" ( ท่าที่บริหารด้วยการ "ดัน" ก็ได้แก่ท่าบริหารหน้าอก ,บ่า ,ไทรเซบ / ส่วนท่าที่บริหารด้วยการ "ดึง" ก็ได้แก่ท่าบริหารกล้ามปีก ,ไทรเซบ ) การอธิบายในเวบหน้านี้ ผมจะพูดถึง จังหวะการออกแรง หรือ Positive Portion เพียงอย่างเดียวนะครับ / นั่นก็หมายความว่า คำอธิบายของภาพที่เพื่อนสมาชิกจะได้ดูข้างล่างนี้ทั้งหมด ผมจะพูดถึงเรื่อง Positive Portion เพียงอย่างเดียว ( ไม่พูดถึงเรื่อง จังหวะการผ่อนแรง หรือ Negative Portion เลย ) เรามาดูกันเลยครับ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามหน้าอกแบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงเคลื่อนตัวบาร์เบลล์ ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามเนื้อหน้าอกเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามหน้าอก เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือดันบาร์เบลล์ให้สูงขึ้นไปข้างบนได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนอุปกรณ์กลับลงมา คือลดบาร์เบลล์กลับลงมา เราก็จะต้องเหยียดกล้ามอก ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามหน้าอก ) เมื่อเราเหยียดกล้ามหน้าอกแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก basketballhq.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้าม Shoulder
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงเคลื่อนตัวบาร์เบลล์ ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้าม Shoulder
เสียก่อน โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้าม Shoulder เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือดันบาร์เบลล์ให้สูงขึ้นไปข้างบนได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนอุปกรณ์กลับลงมา คือลดบาร์เบลล์กลับลงมา เราก็จะต้องเหยียดกล้าม Shoulder ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้าม Shoulder ) เมื่อเราเหยียดกล้าม Shoulder ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก bodybuilding-wizard.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามหัวไหล่
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงเคลื่อนดัมเบลล์ ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามหัวไหล่เสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามหัวไหล่นั้น แล้วเราถึงจะยกดัมเบลล์ทั้ง 2
ข้างขึ้นจนขนานกับพื้นได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนอุปกรณ์กลับลงมา คือลดดัมเบลล์ลงมา เราก็จะต้องเหยียดกล้ามหัวไหล่ ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามหัวไหล่ ) เมื่อเราเหยียดกล้ามหัวไหล่แล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก helpforfitness.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามไทรเซบ
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนที่จับ (
Handle ) ลงมาจาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามไทรเซบเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามไทรเซบนั้น / และเมื่อเราหดเกร็งกล้ามไทรเซบแล้ว
ก็จะทำให้แขนท่อนปลายเหยียดตรงลงไป (
ซึ่งก็คือการกระทำจาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2
นั่นเอง ) ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อน Handle ให้กลับขึ้นไปอยู่ตำแหน่งเดิม เราก็จะต้องเหยียดกล้ามไทรเซบ ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามไทรเซบ ) เมื่อเราเหยียดกล้ามไทรเซบแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก burnthefatinnercircle.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามต้นขาด้านหน้า
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงการเคลื่อนแผ่นเหล็กที่เราเอาเท้ายันไว้ ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามต้นขาด้านหน้าเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามต้นขาด้านหน้า เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือถีบแผ่นเหล็กให้ขึ้นไปข้างบนได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนแผ่นเหล็กให้กลับลงมา เราก็จะต้องเหยียดกล้ามต้นขาด้านหน้า ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามต้นขาด้านหน้า ) เมื่อเราเหยียดกล้ามต้นขาด้านหน้าแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก gymbeginner.hk |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามต้นขาด้านหน้า
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงการเคลื่อนเบาะที่ยันไว้ที่บริเวณหน้าแข้ง ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามต้นขาด้านหน้าเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามต้นขาด้านหน้า เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือ "งัด" เบาะที่ยันไว้ที่หน้าแข้ง ให้สูงขึ้นไปข้างบนได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนเบาะที่ยันไว้ที่หน้าแข้งให้กลับลงมา เราก็จะต้องเหยียดกล้ามต้นขาด้านหน้า ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามต้นขาด้านหน้า ) เมื่อเราเหยียดต้นขาด้านหน้าแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก criticalbench.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามต้นขาด้านหลัง
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงการเคลื่อนเบาะที่ยันไว้ที่บริเวณด้านหลังข้อเท้า ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามต้นขาด้านหลังเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามต้นขาด้านหลัง เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือ "งัด" เบาะที่ยันไว้ที่บริเวณด้านหลังข้อเท้า ให้สูงขึ้นไปข้างบนได้
ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนเบาะที่ยันไว้ที่บริเวณด้านหลังข้อเท้าให้กลับลงมา เราก็จะต้องเหยียดกล้ามต้นขาด้านหลัง ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามต้นขาด้านหลัง ) เมื่อเราเหยียดกล้ามกล้ามต้นขาด้านหลังแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก oxygenmag.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามปีก
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงการเคลื่อนตัวบาร์ ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามเนื้อปีกเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามปีก เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือดึงบาร์ลงมาด้านล่างได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนบาร์ให้กลับขึ้นไป เราก็จะต้องเหยียดกล้ามปีก ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามปีก ) เมื่อเราเหยียดกล้ามปีกแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก bodybuilding.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามปีก
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงการเคลื่อนบาร์เบลล์ ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามเนื้อปีกเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามปีก เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือดึงบาร์เบลล์ขึ้นมาได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนบาร์เบลล์ให้กลับลงไปในตำแหน่งเดิม เราก็จะต้องเหยียดกล้ามปีก ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามปีก ) เมื่อเราเหยียดกล้ามหน้าปีกแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก coachmag.co.uk |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามไบเซบ
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงการเคลื่อนบาร์เบลล์ขึ้น ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามไบเซบเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามไบเซบ เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือ "ม้วนข้อ" ยกบาร์เบลล์ขึ้นมาได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อนบาร์เบลล์ ให้กลับไปอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของต้นขา เราก็จะต้องเหยียดกล้ามไบเซบ ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามไบเซบ ) เมื่อเราเหยียดกล้ามไบเซบแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก bodybuilding.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามหน้าท้อง
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะเคลื่อนอุปกรณ์ (
หมายถึงการเคลื่อน "ที่จับ" หรือ Handle ) จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามหน้าท้องเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามหน้าท้อง เราถึงจะเคลื่อนที่อุปกรณ์
คือดึง Handle ลงมาด้านล่างได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะเคลื่อน Handle ให้กลับขึ้นไป เราก็จะต้องเหยียดกล้ามหน้าท้อง ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามหน้าท้อง ) เมื่อเราเหยียดกล้ามหน้าท้องแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่อุปกรณ์จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก muscleandperformance.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามท้องส่วนล่าง
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาจาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามท้องส่วนล่างเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามท้องส่วนล่าง เราถึงจะยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะผ่อนขาทั้งสองข้างให้กลับลงไป เราก็จะต้องเหยียดกล้ามท้องส่วนล่าง ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามท้องส่วนล่าง ) เมื่อเราเหยียดกล้ามท้องส่วนล่างแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่ของ จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
![]() |
![]() |
![]() |
| จังหวะที่ 1 | จังหวะที่ 2 | จังหวะที่ 3 |
| ภาพจาก bodybuilding.com |
|
| (
ภาพบน ) การบริหารกล้ามน่อง
แบบที่เห็นในภาพข้างบนนี้นั้น
ตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 1 เรายังไม่ได้ออกแรงอะไร /
แต่พอเราจะยก หรือ เขย่ง ร่างกายทั้งหมดให้สูงขึ้น
ซึ่งก็คือการเคลื่อนที่จาก จังหวะที่ 1
ไปสู่ จังหวะที่ 2 นั้น เราจะต้องออกแรงไปที่กล้ามน่องเสียก่อน
โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อ Contact (
หดเกร็ง )
กล้ามน่อง เราถึงจะเขย่งร่างกายทั้งหมด ให้สูงขึ้นได้ ต่อจากนั้น ซึ่งก็คือตอนที่อยู่ใน จังหวะที่ 2 หากเราจะผ่อนร่างกายทั้งหมดให้กลับลงมาสู่ตำแหน่งเดิม เราก็จะต้องเหยียดกล้ามน่อง ( คือการ Stretch ( เหยียด ) กล้ามน่อง ) เมื่อเราเหยียดกล้ามกล้ามน่องแล้ว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่ว่า ในเวบหน้านี้ เราจะพูดถึงจังหวะการออกแรง ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนที่จาก จังหวะที่ 2 ไป จังหวะที่ 3 แต่อย่างใด ให้เรารู้เพียงแค่ว่าการเคลื่อนที่จาก จังหวะที่ 1 ไป จังหวะที่ 2 ในภาพข้างบนนี้ ก็คือส่วนของจังหวะการออกแรง หรือที่เรียกว่า ส่วนของ Positive ( Positive Portion ) ก็พอ |
|
| - END - |