รายการอาหารนักเพาะกายที่แนะนำนี้ ไม่ได้คิดขึ้นมามั่วๆ แต่เต็มไปด้วยหลักการ มันมาจากคำแนะนำของคุณ จูเบิร์ต ซึ่งศึกษาและวิจัยอาหารสำหรับนักเพาะกายมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 ( พ.ศ.2518 ) ก็ตั้งเกือบ 40 ปีมาแล้วนะครับ เขาก็พูดวิชาการไว้เพียบ แต่ถือว่าคุณมีความรู้วิชาการจากหน้าแรกแล้ว ก็เลยเอาแต่ภาคปฏิบัติเลยดีกว่า  ซึ่งตอนที่ไปสัมภาษณ์นั้น เขากำลังดูตารางการทานอาหารให้กับคุณ อาชิม นักเพาะกายชื่อดัง ตามรูปล่าง ซึ่งคุณอาชิม บอกว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายเขามาก เรียกได้ว่าความเปลี่ยนแปลงนั้น รู้สึกได้เลยว่าเปลี่ยนไป ทุกๆชั่วโมง เลยทีเดียว
 

คุณอาชิม กำลังทานอาหารตามคำแนะนำของคุณจูเบิร์ต
 

อาชิม กับความเปลี่ยนแปลงบนร่างกายของเขา
 


โภชนาการของจูเบิร์ต คือ ( เตรียม เครื่องชั่งน้ำหนักอาหาร (คลิ๊ก) ไว้เลยครับ )
 

ทานน้ำขนาดแก้วละ 8 ออนซ์ วันละ 8 - 10 แก้วทุกวัน


 

7 โมงเช้า - โอทท์มีล 4 ออนซ์ กับไข่ 4 ใบ ,อะมิโนแอซิด 1 เม็ด ,วิตะมินและเกลือแร่ ( ที่เห็นเป็นแคปซูลคือ วิตะมินและเกลือแร่ ซึ่งจะจัดมาเป็นแพ็ค โดยกิน 1 แพ็คต่อ 1 วัน ใน 1 แพ็คจะมีวิตะมินและเกลือแร่รูปแบบต่างๆหลายเม็ด แยกกินตามมื้อต่างๆ แต่รวมทั้งวันแล้วก็คือกิน 1 แพ็ค  ส่วนตัวแล้ว ผมแนะนำให้ใช้วิตะมินรวมเซนทรัมแค่เม็ดเดียวก็พอครับ )


 

10 โมงเช้า - เนื้อไก่ล้วน ( ไม่มีหนัง ) หรือ เนื้อแดง ( เนื้อวัว ) 1 ชิ้นเล็กๆ , มันอบ 3 หัว กินกับผักอย่างอื่นอีก 2 แบบ
อะมิโนแอซิด ( 2 เม็ด ) ,วิตะมิน


 

บ่ายโมง - เนื้อหน้าอกไก่ชิ้นใหญ่ 2 ชิ้น ,ผัก 3 ชนิด ,ข้าวซ้อมมือ หรือข้าวซ้อมมือผสมข้าวขาว 1 ถ้วย
อะมิโนแอซิด ( 2 เม็ด ),วิตะมิน ,เกลือแร่


 

4 โมงเย็น - มันอบ 1 ลูก ,กล้วย 1 ลูก
อะมิโนแอซิด ( 2 เม็ด ),วิตะมิน ,เกลือแร่


 

19.00 น. - ปลา ,ผักต้ม ,ข้าว
อะมิโนแอซิด ( 2 เม็ด ),วิตะมิน ,เกลือแร่


 


          รายการอาหารนี้ เป็นของฝรั่งเขานะครับ  แต่เราจะทานเลียนแบบเลยก็ไม่ยาก เพราะหาซื้อในบ้านเราได้หมด แถมดูแล้วทำกินเองได้ง่ายๆด้วยครับ และเขาก็แนะนำไว้แค่นี้จริงๆ โดยไม่มีกล้วยน้ำว้า ,โปรตีนปั่น ฯลฯ ที่คนสรรหามาบอกกันให้ยุ่งยาก คือโดยส่วนตัวแล้ว ผมก็ไม่ได้ว่าเรื่องกล้วยน้ำว้าหรอกนะครับ เพียงแต่ไม่ชอบให้ยัดเยียดความคิดที่ว่ากินกล้วยน้ำว้าแล้วกล้ามโต เพราะมันเป็นแค่ผลไม้ที่ให้วิตะมิน  มันไม่ได้ให้โปรตีนเลย  พอเขาอุตส่าห์ตั้งใจทำตามโดยกินกล้วยน้ำว้าเข้าไปมากๆ  ไปเล่นกล้ามแล้วกล้ามไม่ขึ้น ก็เกิดความคิดว่าคงเอาดีทางนี้ไม่ได้ ( เพราะกินกล้วยน้ำว้าเยอะขนาดนี้แล้ว ) ก็เลยหนีหายไปเลย น่าเสียดายครับ  ควรจะชี้ทางถูกให้ดีกว่า อย่าไปเอาความเชื่อที่ไม่มีวิทยาศาสตร์รองรับมาบอกกันอย่างนั้นเลยครับ

          คุณจูเบิร์ต ไม่ได้แนะนำให้ทานซ้ำๆกันทุกวันนะครับ เขาเน้นว่าจะต้องเปลี่ยนแหล่งสารอาหารให้ได้หลายๆแบบด้วย อย่างมื้อ Mid morning เขาก็จะใช้คำว่า OR ( หรือ ) เพื่อให้สลับไปมาระหว่างเนื้อวัวกับเนื้อไก่ ,ส่วนผักนั้น เขาก็ไม่บอกมาตายตัวว่าต้องทานอะไร เพียงแต่บอกมาว่าต้องใช้กี่ชนิด แล้วให้เราเลือกทานเอง ซึ่งอันนี้ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะบ้านเรามีผักกินจิ้มกับน้ำพริกเป็นอาหารประจำชาติเราอยู่แล้วครับ

 

- END -