|
Supersets |
1 > 2 |
อ้างอิงจาก
thoughtco.com/supersets-definition-supersets-information-415302
โดย Hugo Rivera
ระบบฝึกซูเปอร์เซท ( Supersets ) คือการเอาท่าบริหาร "คนละท่า" นำมาบริหารต่อกัน โดยไม่มีการพักเซทในขณะที่กำลังเปลี่ยนท่าบริหารแรก ไปเป็นท่าบริหารท่าถัดไป ท่าบริหารที่นำมาบริหารต่อกันที่ว่านี้ คุณสามารถเลือกเอาท่าบริหารสำหรับกล้ามเนื้อกลุ่มเดียวกัน "ทั้งสองท่า" / หรือจะเลือกท่าบริหารท่าแรก เป็นท่าบริหารสำหรับกล้ามเนื้อกลุ่มหนึ่ง แล้วท่าถัดไป ก็เลือกท่าบริหารสำหรับบริหารกล้ามเนื้อกลุ่มที่อยู่ตรงข้ามกับการท่าบริหารท่าแรกก็ได้ ขึ้นกับจุดประสงค์ในการวางแผนการฝึกของคุณ ระบบฝึกซูเปอร์เซ็ท จะทำให้กล้ามเนื้อคุณต้องออกแรงจนถึงขีดสุดได้ โดยไม่จำเป็นพึ่งลูกน้ำหนักที่หนักมากก็ได้ |
![]() |
( ภาพบน ) ท่าที่
1 - ท่า Alternate Dumbbell Curls ภาพจาก fitnesshe.co.za |
![]() |
( ภาพบน )
ท่าที่ 2 - ท่า Standing Cable
Curl ภาพจาก acook250.wordpress.com |
การใช้ซูเปอร์เซทกับกล้ามเนื้อกลุ่มเดียวกัน
รูปแบบแรกของการใช้ซูเปอร์เซทคือ ใช้ซูเปอร์เซทกับกลัามเนื้อกลุ่มเดียวกัน / ยกตัวอย่างเช่นกล้ามเนื้อกลุ่มไบเซบ โดยเริ่มด้วยการบริหารท่าที่ 1 คือ Alternate Dumbbell Curls ก่อน 1 เซท จากนั้นก็เปลี่ยนไปบริหารท่าที่ 2 คือท่า Standing Cable Curl ต่อทันทีโดยไม่มีการพักระหว่างเปลี่ยนท่า ก็จริงอยู่ ในแง่ที่ว่า ในท่าที่ 2 ( คือ Standing Cable Curl ) เรี่ยวแรงคุณเหลือน้อยกว่าตอนที่บริหารท่านี้ ( Standing Cable Curl ) ตามปกติ ( คือหมายความว่า ตามปกติ คุณสามารถริหารท่า Standing Cable Curl ได้ถึง 12 Reps / แต่พอคุณเอาท่านี้มาทำซูเปอร์เซท คือเอามาไว้เป็นท่าที่ 2 ของการทำซูเปอร์เซท คุณก็เลยยกได้แค่ 8 Reps ) แต่การเอาท่าที่ 2 มาทำซูเปอร์เซทนี้ คุณจะได้รับอานิสงส์จากเทคนิค Pre-exhaust ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อไบเซบคุณได้บริหารท่า Standing Cable Curl ได้อย่างเฉพาะเจาะจง |
ขอแทรกนิดนึงครับ เพื่อให้เข้าใจบรรทัดข้างบนนี้ได้ดียิ่งขึ้น ( ที่มีการพาดพิงไปถึงเทคนิค Pre-exhaust ) ผมขออธิบายให้ฟังแบบนี้นะครับ
( ภาพบน ) สมมติว่าท่า Standing Cable Curl ในภาพข้างบนนี้ "เน้น" ไปที่การใช้ "เส้นใยกล้ามเนื้อ" เส้นที่ 4 , 5 และ 6 ของกล้ามไบเซบ ( อันนี้ สมมติให้เห็นภาพเฉยๆนะครับ ) / แต่ว่าทุกครั้งที่บริหารท่านี้ ไอ้เจ้าเส้นใยกล้ามเนื้อเส้นที่ 1 , 2 และ 3 มันเข้ามาช่วยออกแรงทุกครั้ง ซึ่งเราไม่ต้องการให้ไอ้เจ้าเส้นใยกล้ามเนื้อเส้นที่ 1 , 2 และ 3 มาช่วยออกแรงเลย เพราะเราอยากให้เส้นที่ 4 , 5 และ 6 ของกล้ามไบเซบ ได้ออกแรงแบบเต็มที่ ( เพราะท่านี้ มันต้องเน้นไปที่ เส้นที่ 4 , 5 และ 6 ถึงจะได้ผลดีที่สุด )
( ภาพบน ) คราวนี้ สมมติว่า จากงานวิจัยต่างๆ เรารู้ว่าท่า Alternate Dumbbell Curls ที่เห็นในภาพข้างบนนี้ จะใช้เส้นใยกล้ามเนื้อของกล้ามไบเซบเส้นที่ 1 , 2 และ 3 ในการออกแรง ดังนั้น เวลาที่เขาจะเลือกท่ามาจัดทำซูเปอร์เซท เขาก็เลยเอา ท่า Alternate Dumbbell Curls มาขึ้นเป็นท่าที่ 1 แทนที่จะเอาท่า Standing Cable Curl มาเป็นท่าที่ 1 คือหมายความว่า เวลาทำซูเปอร์เซทแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ
( ภาพบน ) ในท่าแรก ให้ใช้ท่า Alternate Dumbbell Curls เพื่อให้เส้นใยกล้ามเนื้อของกล้ามไบเซบเส้นที่ 1 , 2 และ 3 ได้ออกแรงเต็มที่ไปก่อน
( ภาพบน ) แล้วพอขึ้นท่าที่ 2 คือท่า Standing Cable Curl นี้ / ไอ้เจ้าเส้นใยกล้ามเนื้อเส้นที่ 1 , 2 และ 3 มันได้อ่อนแรง ,หมดแรงไปเพราะถูกบริหารไปด้วยท่า Alternate Dumbbell Curls ในท่าที่ 1 แล้ว ดังนั้นเวลาที่เราบริหารท่าที่ 2 คือท่า Standing Cable Curl ในภาพข้างบนนี้ เราก็เลยได้ใช้เส้นที่ 4 , 5 และ 6 ของกล้ามไบเซบ มาออกแรงบริหารท่านี้ได้เต็มที่ โดยที่ไม่มีเส้นที่ 1 , 2 และ 3 มาแย่งออกแรงแล้ว เพราะเส้นที่ 1 , 2 และ 3 มันหมดแรงไปก่อนหน้านี้แล้ว นี่แหละครับ คือความหมายของการที่เขาพาดพิงถึง Pre-exhaust |
การใช้ซูเปอร์เซทกับกล้ามเนื้อกลุ่มที่อยู่ตรงกันข้ามกัน การใช้ซูเปอร์เซทกับกล้ามเนื้อกลุ่มที่อยู่ตรงกันข้ามกันก็ได้แก่ การเอากล้ามหน้าอกกับกล้ามหลัง มาทำซูเปอร์เซทกัน ,การนำเอากล้ามไบเซบ กับกล้ามไทรเซบ มาทำซูเปอร์เซทกัน หลักการของการใช้กล้ามเนื้อกลุ่มที่อยู่ตรงข้ามกันก็คือว่า ในขณะที่กล้ามเนื้อด้านหนึ่งกำลังหดเกร็ง ( Contracts ) กล้ามเนื้ออีกด้านหนึ่งก็จะเหยียดตัว ( Stretch หรือ Relaxes ) นั่นก็หมายความว่า เมื่อเราบริหารในท่าม้วนข้อด้วยดัมเบลล์เพื่อบริหารไบเซบจบเซทเมื่อไร เราก็สามารถบริหารไทรเซบในท่า triceps extensions ได้เลย โดยที่กล้ามไทรเซบยังมีความสดชื่นอยู่ แม้ว่าจะถูกบริหารเป็นท่าที่ 2 ( โดยที่ไม่มีการพักระหว่างเปลี่ยนจากท่าที่ 1 ( ที่บริหารไบเซบ ) มาเป็นท่าที่ 2 ( ที่บริหารไทรเซบในท่า triceps extensions ) ก็ตาม / แต่กล้ามไทรเซบก็ยังสดชื่นอยู่ในชณะที่กำลังบริหาร ) การบริหารกล้ามไทรเซบ โดยที่กล้ามไทรเซบยังมีความสดชื่นอยู่ มันก็ให้ผลดีเท่ากับการบริหารไทรเซบในท่าเดียวกันนี้ ตอนที่ยังไม่ได้เอามาทำเป็นซูเปอร์เซท ( เพราะกล้ามไทรเซบ มีความสดชื่น ( คือไม่ล้า ) เหมือนๆกัน ) |
|
![]() |
( ภาพบน ) ท่าที่
1 - ท่า Shoulder Presses ภาพจาก feelfirm.com |
![]() |
( ภาพบน ) ท่าที่
2 - ท่า Calf Raises ภาพจาก fitsaurus.com |
การใช้ซูเปอร์เซทกับกล้ามเนื้อกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย การใช้ซูเปอร์เซท สามารถใช้กับกล้ามเนื้อกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มกล้ามเนื้อบ่า กับกลุ่มกล้ามเนื้อน่อง ( Shoulders and Calves ) / หรือว่า หน้าท้องส่วนบน กลับหน้าท้องส่วนล่าง ( Upper Abs and Lower Abs ) ยกตัวอย่างการทำซูเปอร์เซทในรูปแบบนี้ ( รูปแบบที่ใช้กับกลุ่มกล้ามเนื้อที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ) ก็คือเอาท่า Shoulder Presses เป็นท่าที่ 1 / แล้วต่อด้วยท่า Calf Raises เป็นท่าที่ 2 ( เหมือนที่เห็น 2 ภาพข้างบนนี้ ) |
![]() |
การเอากล้ามไบเซบและกล้ามไทรเซบ จับคู่ซูเปอร์เซทก็ให้ผลดี /
การจับคู่ระหว่างกล้ามหน้าอก และกล้ามหลังก็ให้ผลดีเช่นกัน /
การจับคู่ระหว่างกล้ามต้นขา
กับกล้ามหน้าท้องก็เป็นกลยุทธ์ซูเปอร์เซทที่ดีด้วย ในเมื่อการทำซูเปอร์เซททุกรูปแบบมันก็ให้ผลดีไปหมด ผมจึงขอแนะนำว่าให้คุณทดลองทุกรูปแบบด้วยตัวเองเสียเลย ( ทดลองใช้ซูเปอร์เซทแบบที่จับคู่กล้ามเนื้อกลุ่มเดียวกัน ,จับคู่กล้ามเนื้อกลุ่มตรงข้ามกัน และจับคู่กล้ามเนื้อกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ) แล้วดูว่ากล้ามเนื้อของเรากลุ่มไหน มันถูกวิสัยกับซูเปอร์เซทแบบไหน แล้วก็เลือกใช้ซูเปอร์เซทแบบนั้น กับกลุ่มกล้ามเนื้อที่เราต้องการฝึกนั้น ( Webmaster - ในเวบหน้าสอง ผมเอาซูเปอร์เซทแบบมีภาพประกอบ และมีตัวอย่างการจับคู่ท่าบริหารที่เอามาทำซูเปอร์เซทให้ดูนะครับ ) |
|
หน้าถัดไป |
1 > 2 |