|
ขอแทรกนิดนึงครับ
ข้อมูลจาก :
http://www.healthfreedoms.org/do-you-know-the-difference-between-lemon-and-lime/
ความแตกต่างระหว่าง Lemon (
ลูกสีเหลือง ) กับ Lime
( ลูกสีเขียว )
เนื่องจาก
Lemon ( ลูกสีเหลือง ) กับ Lime
( ลูกสีเขียว )
จะมีรสชาติที่คล้ายคลึงกัน คนทั่วไปจึงมักสับสนระหว่างผลไม้ 2
ชนิดนี้ว่า อันไหนเป็น Lemon อันไหนเป็น Lime กันแน่?
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Lemon (
ลูกสีเหลือง )
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus Lemon / ในขณะที่ Lime
( ลูกสีเขียว )
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus aurantifolia
ขนาด : Lemon (
ลูกสีเหลือง ) จะมีผล "ใหญ่กว่า" Lime (
ลูกสีเขียว )
รูปทรง : Lemon (
ลูกสีเหลือง ) จะมีรูปทรงเป็น
วงรี / ในขณะที่ Lime (
ลูกสีเขียว ) จะมีรูปทรงเป็น
วงกลม
รส : Lemon (
ลูกสีเหลือง ) จะมีรส "เปรี้ยว" / ในขณะที่
Lime ( ลูกสีเขียว )
อาจจะมีรส "หวาน" หรือรส "ขม" ก็ได้ ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของ
Lime
วิตะมิน C : Lemon (
ลูกสีเหลือง ) มีวิตะมิน C
ประมาณลูกละ 53 มิลลิกรัม / ในขณะที่ Lime (
ลูกสีเขียว ) มีวิตะมิน C
ประมาณลูกละ 29 มิลลิกรัม
วิตะมินอื่นๆ : Lemon (
ลูกสีเหลือง ) มีโปแตสเซียม
และกรดโฟลิค ( Potassium and Folic Acid
) ในปริมาณมาก / ในขณะที่ Lime (
ลูกสีเขียว ) มีวิตะมิน A มาก
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมแล้ว ทั้ง Lemon (
ลูกสีเหลือง ) และ Lime (
ลูกสีเขียว ) ต่างก็มีส่วนประกอบของสารอาหารเหมือนกัน
มีวิตะมินและเกลือแร่ในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งทั้งสองตัวนี้ (
ทั้ง Lemon และ Lime )
ต่างก็ให้
สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถยับยั้งการเกิด "มะเร็ง"
ได้
ทั้ง Lemon
( ลูกสีเหลือง ) และ Lime (
ลูกสีเขียว )
ต่างก็ช่วยกำจัดสาร
ท็อคซิน ออกไปจากร่างกายได้
และนี่คือปัจจัยหลักที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ (
เพราะ ท็อคซิน
มีส่วนในการทำให้เกิดมะเร็งขึ้นในร่างกาย )
ขอให้คุณเริ่มทานผลไม้ทั้งสองอย่างนี้ตั้งแต่วันนี้
เพราะผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างก็พูดตรงกันว่า ผลไม้ทั้งสองอย่างนี้
ช่วยทำให้ร่างกายคุณ มีสุขภาพดีขึ้นในภาพรวมครับ
|
|