หลังจากที่ได้ออกกำลังกายติดต่อกันเป็นเวลานาน
อย่าลืมว่าเมื่อจะเลิกออกกำลังกาย ห้ามหยุดออกกำลังกายทันทีทันใด
จะต้องผ่อนคลายให้ร่างกายเย็นลงช้าๆ หรือที่เรียกว่า cool-down
ซึ่งความสำคัญอย่างยิ่ง ป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
หรือแม้กระทั่ง ช่วยผลักดันเลือดที่ตกค้างตามกล้ามเนื้อตามร่างกายที่แขน
ที่ขา กลับสู่หัวใจให้เพียงพอ หลังจากออกกำลังต่อเนื่องกันนาน 30 นาที
ค่อยๆลดความแรงของการออกกำลังกายลงช้าๆ ก่อนหยุดโดยใช้เวลา 5-10 นาที
ตามด้วยการเหยียดเอ็นกล้ามเนื้อ และข้อต่างๆ เหมือนกับช่วงอบอุ่นร่างกาย
ประโยชน์ของการผ่อนกาย ( Cool
down )
1.ป้องกันอาการหน้ามืด เป็นลม ความดันโลหิตต่ำ เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง
หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จากการคั่งของเลือดบริเวณกล้ามเนื้อ
2.ลดปัญหาปวดเมื่อย หรือบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย เนื่องจากว่า
ขณะที่เราออกกำลังกายหนักๆ ซึ่งใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่
หัวใจต้องส่งเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่ทำงานหนัก
โดยบีบตัวให้แรงมากขึ้นและด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น
ในขณะที่กล้ามเนื้อได้รับเลือดมาก
ก็จะหดตัวบีบเอาเลือดกลับไปยังหัวใจมากขึ้นเช่นกัน
เป็นการรักษาวงจรการไหลเวียนของเลือดให้เป็นไปอย่างปกติ
หากเราออกกำลังกายไปเรื่อยๆระบบวงจรนี้ก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย
ถ้าหากเราหยุดออกกำลังกายทันทีกล้ามเนื้อจะหยุดหดทันทีด้วย
เป็นผลให้มีเลือดคั่ง ในส่วนต่างๆของร่างกายเป็นจำนวนมาก
หัวใจที่ยังเต้นเร็ว
และแรงอยู่นั้นก็จะได้รับเลือดไม่พอเกิดการขาดเลือดอย่างทันทีด้วย
เช่น
เรากำลังวิ่งด้วยอัตราเร็วสูงอยู่ ก็ค่อยๆลดช้าลง ช้าลงๆแล้วกลายเป็นเดิน
ท้ายที่สุดก็จะมีการยืดเหยียด เพราะหากหยุดออก กำลังกายทันทีทันใด
จะทำให้เลือดที่ไหลเวียนกลับสู่หัวใจน้อยลง
โดยเลือดจะคั่งค้างอยู่ที่หลอดเลือดภายในกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะกล้ามเนื้อของขา ( Pooling Effect
) ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่บีบออก จากหัวใจเพื่อส่งไปยังส่วนต่างๆ
ของร่างกายลดลง โดยเฉพาะสมอง จึงทำให้เกิด อาการหน้ามืดเป็นลมได้
เราจึงต้องใช้เวลา อย่างน้อย 5-10 นาที ในการปรับตัว
คือค่อยๆลดชีพจรลงจนเป็นปกติ
โดยสรุป - Warm up ป้องกันการบาดเจ็บ cool down
ป้องกันการปวดเมื่อย ป้องกันไม่ให้เราขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้
รู้แบบนี้แล้วหล่ะก็...อย่ามองข้ามการ Warm up และ Cool down กันนะครับ
อ้างอิงจากลิงก์ -
http://www.tvdirect.tv/idea_view.php?view=&idea=000053
|