TUVA ตอบปัญหา

 
ถาม
เล่นกล้ามบ่าและหัวไหล่ไม่ขึ้น จะแก้ปัญหาอย่างไรครับ (ตอบโดย ลี  ฮาเน่ มิสเตอร์โอลิมเปีย 6 สมัยซ้อน)
 
 

 
ตอบ
   "ไม่มีปัญหาถ้าคุณฝึกเหมือนที่ผมฝึก" ลี กล่าว และต่อไปนี้คือคำตอบของลีครับ

       นักเพาะกายหน้าใหม่ทั้งหลาย มักจะคิดว่าการเล่นกล้ามคือการบริหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง โดยทำเพียงแค่ยกลูกน้ำหนักขึ้นและลงในโรงยิมเท่านั้น แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น การจะเล่นกล้ามให้ประสบความสำเร็จ คุณต้องใช้ทักษะค่อนข้างมาก และยังรวมไปถึงการใช้เวลายาวนาน ,ความพยายาม ,การเรียนรู้ และการไตร่ตรอง ทั้งหมดนี้แหละ จึงจะนำพาให้คุณพัฒนาร่างกายจนได้ถึงระดับแชมเปี้ยน

       คงไม่ผิดนัก หากจะเปรียบเทียบการเพาะกายที่ประสบความสำเร็จได้กับ การทำปริญญาระดับด็อกเตอร์ในสาขาวิชาที่คุณสนใจ เพราะนั่นคือการต้องใช้เวลาเป็นอย่างน้อย 7 ปี และถ้าคุณลองมองผู้เข้าแข่งขันมิสเตอร์โอลิมเปียแต่ละคน คุณจะพบว่าเขาทุ่มเท และใช้เวลามากกว่านั้นเสียอีก

       จะเพาะกายให้ประสบความสำเร็จได้ คุณจะต้องเข้าใจสิ่งต่อไปนี้คือ "สรีระวิทยาของท่าที่คุณกำลังบริหาร" ,"กลศาสตร์การเคลื่อนที่ของกล้ามเนื้อ" ,โภชนาการ  และจะว่าไปแล้ว การเรียนรู้ ,การลองผิดลองถูกเกี่ยวกับการเพาะกายในช่วงเวลาหลายสิบปีมานี้ ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากเกินกว่าวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์จะคาดถึงเสียอีก
 


 


 

ทำความเข้าใจบทบาทของกล้ามเนื้อก่อน

 
     นักเพาะกายที่ดี จะใช้ประสบการณ์การเรียนรู้จากนักเพาะกายที่มีประสบการณ์มากกว่า ,จากเพื่อนคู่ฝึกของเขาในโรงยิม ,จากแหล่งความรู้ต่างๆไม่ว่าจะเป็นนิตยสารเพาะกาย ฯลฯ จากนั้นจึง จับจุด ออกมาเฉพาะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากล้ามเนื้อของเขา

     ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนากล้ามเนื้อ มักจะมีสัญชาติญาณพิเศษในการเรียนรู้ว่า อะไรเหมาะกับกล้ามเนื้อที่เขากำลังบริหารอยู่ พวกเขามักจะทำตามความรู้สึกนั้นและประสบความสำเร็จ แต่ไม่ทุกครั้งไป และเมื่อถึงเวลาที่สัญชาติญาณใช้กับกล้ามเนื้อตรงนั้นไม่ได้ เขาจะต้องพยายามหาหนทางใหม่ให้ได้ เพราะถ้ายังดึงดันทำตามสัญชาติญาณ เขาอาจไปไม่ถึงดวงดาว

     มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณจะต้องเข้าใจว่ากล้ามเนื้อแต่ละกลุ่มในร่างกายทำงานอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ผมเคยมีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างกล้ามไบเซบ ด้วยเหตุผลที่ว่าผมใช้น้ำหนักมากเกินไปในการบริหาร และทำให้ต้องเหวี่ยง หรือเอนตัวไปข้างหลังเพื่อพยายามม้วนข้อขึ้นมา และแน่นอนว่ามันกลายเป็นว่าผมกำลังบริหารกล้าม หนอกคอ (Traps) มากกว่าบริหารไบเซบ อีกอย่างหนึ่งที่เห็นผิดกันมากคือ นักเพาะกายมักใช้แรงจากกล้ามไบเซบมากเกินไปในการบริหารกล้ามหลัง จนกระทั่งกล้ามหลังกลายเป็นจุดอ่อนบนร่างกายของเขา

     เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการเล่นกล้าม คุณจำเป็นต้องเรียนรู้การบริหารกล้ามเนื้อแต่ละกลุ่ม เพื่อจะได้บริหารให้ถูกจุด เหมือนกับการบริหารกล้ามปีกที่พูดถึงไปนั้น คุณต้องเรียนรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ให้กล้ามไบเซบมาออกแรงมากเกินไป นั่นคือคุณต้องเพ่งสมาธิไปที่กล้ามหลังที่จุดเชื่อมต่อระหว่างกล้ามหนอกคอ กับ กล้ามปีก (Lat) ทำความรู้สึกว่าใช้แรงจากตรงนั้น  ซึ่งตัวอย่างที่พูดถึงนี้ ให้นำไปประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์วิธีบริหารกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆในร่างกายด้วย

     กล้ามเนื้อแต่ละกลุ่มจะมีบทบาทของมันเฉพาะตัว คุณต้องจับจุดให้ได้ว่ามันทำงานอย่างไร และทำอย่างไรจึงจะกล้ามเนื้อนั้น เกิดความรู้สึกในตัวของมัน (กล้ามเนื้อ) เอง ว่ากำลังถูกบริหารในขณะที่คุณกำลังบริหารมันอยู่
 

 


 

    การใช้ตารางฝึกกล้ามบ่าและหัวไหล่ของลี จะแบ่งเป็น 3 ชนิด โดยใช้สัญชาติญาณว่าเมื่อไรควรจะใช้แบบไหน ดังนี้คือ

1.ตารางฝึกปกติ

2.ตารางฝึกเพื่อเพิ่มปริมาณกล้าม

3.ตารางฝึกเพื่อคุณภาพและความชัดของกล้ามเนื้อ


 


 

ตารางฝึกบ่าและหัวไหล่ของลีแบบปกติ
 

ท่าบริหาร เซท จำนวนครั้ง
PRESS BEHIND THE NECK 5 5 - 7
SIDE LATERAL RAISE 4 10 - 12
BENT - OVER LATERAL RAISE 4 10 - 12
BEHIND BACK SHRUG 3 - 4 12 - 15

 


 

Behind Back Shrug


 


 

ตารางฝึกเพื่อเพิ่มปริมาณกล้าม

บริหารด้วยรูปแบบการดัน

SEATED MILITARY PRESS

PRESS BEHIND THE NECK

DUMBBELL PRESS (ให้ยืนแทนการนั่ง)

SEATED DUMBBELL PRESS (นั่งบริหาร)

MACHINE PRESSES

INCLINE DUMBBELL PRESS (ให้ตั้งม้านั่งขึ้นเกือบตั้งฉากกับพื้น เพื่อเป็นการบริหารหัวไหล่ด้านหน้า)

จุดประสงค์

เพื่อสร้างปริมาณมัดกล้ามเนื้อให้ใหญ่ ,แน่น และ เต็ม

เทคนิค

1.เลือกใช้ลูกน้ำหนักที่หนักเท่านั้น

2.บริหารเซทละ 6 - 8 ครั้ง

3.หลีกเลี่ยงการออกแรงจากกล้ามไทรเซบ หรือกล้ามหนอกคอ ขณะบริหาร

 


 


 


 

ตารางฝึกเพื่อคุณภาพและความชัดของกล้ามเนื้อ

ใช้ดัมเบลล์

           ALTERNATE DUMBBELL FRONT RAISE

           SIDE LATERAL RAISE หรือ BENT - OVER LATERAL RAISE (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

เสร็จแล้วต่อด้วยการใช้เคเบิล

           CABLE FRONT RAISE

           SIDE CABLE LATERAL RAISE หรือ BENT - OVER CABLE LATERAL RAISE (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

ปิดท้ายด้วยท่า BARBELL FRONT RAISE

 


 

หน้าถัดไป