ข้อแนะนำเรื่องการวางตัว

โดย John  Brown  มิสเตอร์ยูนิเวอร์สสองสมัยซ้อน

  จอห์น   บราวน์ ผู้เขียนบทความนี้ ปัจจุบันไม่ได้ลงแข่งขัน แต่ในอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เขาประกอบอาชีพเพียงอย่างเดียวคือ นักเพาะกายอาชีพ ซึ่งการวางตัว การฝึก การแต่งตัว รถคันหรูๆที่ใช้ การให้สัมภาษณ์ ฯลฯ ทำให้แชมป์ในปัจจุบันหลายๆคน เช่น ฌอน   เรย์ และคนอื่นๆ เห็นเขาแล้วเกิดความต้องการ ที่จะเป็นนักเพาะกายอาชีพ ขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจ คำสอน รวมทั้งวิธีคิดของเขา จึงเป็นสิ่งที่มีค่า เหมาะแก่การแปลมาให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านครับ - webmaster

         ถ้าคุณเล่นกล้าม ไม่ว่าจะสนใจเข้าแข่งขันหรือไม่ อย่างน้อยจะต้องมีสักวันหนึ่ง ที่คุณต้องเจอกับคำว่า "การนำเสนอต่อสาธารณชน" (Presentation) คุณเข้าใจคำนี้อย่างถ่องแท้หรือไม่ ถ้าคุณถามเพื่อนในยิม เขาอาจจะให้คำตอบคุณว่า ก็คือการเบ่งกล้าม ในส่วนเราคิดว่าเจ๋งสุด บนเวที ให้คนดูเห็นมากที่สุด หรือเมื่อเปิดตำรานักเพาะกาย คำแปลของมันก็เป็นว่า "วิธีนำเสนอกล้าม ให้กรรมการและคนดูพอใจ" แต่แน่ใจหรือว่าความหมายทั้งหมดมีแค่นั้น?
           แล้วอะไรคือความหมายที่แท้จริงของคำว่า "การนำเสนอต่อสาธารณชน"ล่ะ สิ่งที่เพื่อนในยิมของคุณพูด หรือตำราที่คุณเปิด ก็มีส่วนถูกบ้าง แต่มันยังไม่ครบถ้วน เอาละ แทนที่เราจะมามัวเล่นคำกัน ผมจะยกเอาคำสอนของผม ที่มีให้กับนักเพาะกายหน้าใหม่ นามว่ามาร์วิน มาให้อ่านกันนะครับ 
  สร้างความคิดพื้นฐานก่อน
           สิ่งแรกที่ผมสอนมาร์วิน ก็คือให้เปลี่ยนความคิดที่ว่า การเล่นกล้ามคือการยกลูกน้ำหนัก ให้ก็ตัวใหญ่ขึ้น และเมื่อตัวใหญ่ขึ้น ก็ถึงจุดสูงสุดแล้ว ผมสอนเขาว่า มันมากกว่านั้น ในกีฬาตัวนี้ คุณจะต้อง ฟัง ,ดูดซับ และ จำ คุณจะต้องมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร คุณต้องใส่ใจในร่างกายของคุณ ไม่ใช่ยกน้ำหนักแบบสักแต่ว่ายก 
           เอาละ คุณจะต้องมีความรู้เบื้องต้นบ้างว่า ท่าไหนต้องยกอย่างไร กี่ครั้ง กี่เซทดี กินอาหารอย่างไร พักนานขนาดไหน สิ่งพวกนี้เขาเรียกว่า "วิธีการพื้นฐาน" ซึ่งคุณจะต้องใช้เป็นแนวทาง อาจจะประยุกต์บ้าง แต่ก็ไม่ควรไปไกลวิธีการพื้นฐานนี้ และแม้ว่าคุณจะเกิดมามีพรสวรรค์ หรือโครงสร้าง ที่ทำให้คุณเหนือกว่าคนอื่นๆตั้งแต่อยู่ในมุ้ง แต่มันไม่อาจทำให้คุณชนะได้เสมอไปหรอก เพราะโลกของนักกล้ามมันมีอะไรมากกว่านั้นครับ
           ตั้งแต่เรามาพูดเรื่อง "การนำเสนอต่อสาธารณชน" ในวันนี้ ผมจะขอพูดฟันธงเกี่ยวกับแนวความคิดในการฝึก ออกเป็นเพียงแค่ 2 ประเด็นเท่านั้นคือ
           1.อย่ามัวแต่ทำความเข้าใจในท่าบริหาร โดยการศึกษาตามตำรับตำราอยู่เลย แต่จงบริหารท่านั้นๆเสียทันที แชมป์หลายคนถึงกับออกปากว่า พวกเขาต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะได้รู้อย่างถ่องแท้ว่า จะต้องบริหารท่านั้นๆอย่างไร ขนาดไหน จึงจะได้ผลดีที่สุด
           2.การใช้สมาธิในขณะบริหารเป็นสิ่งที่ดี แต่การใช้สมาธิมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี ผมขอยกตัวอย่างเรื่องการเดินของเรา เมื่อใดก็ตามที่เราเอาใจใส่การเดินของเรา แบบจับผิดมากเกินไปแล้วละก็ การทำงานของระบบประสาท จะเกิดการผิดพลาดได้ เช่นอาจจะทำให้แขนข้างขวาคุณ แกว่งไปข้างหน้าพร้อมกับขาขวาคุณ แต่เมื่อคุณเดินไปตามธรรมชาติ คิดเรื่องอื่นๆไป ไม่ได้เอาใจใส่การเดิน ร่างกายก็จะทำงานตามอัตโนมัติ จึงมีการเดินที่ปกติ  ผมพูดประเด็นนี้ขึ้นมา เพื่อจะสรุปให้คุณฟังว่า อย่ามัวคิดมากหรือตั้งคำถามโน่นนี่อยู่เลย ให้ลงมือบริหารเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ แล้วร่างกายคุณจะค่อยๆเรียนรู้ว่า บริหารท่าไหน อย่างไร จึงจะได้ผลดีที่สุด
  นิสัยส่วนตัว
           เมื่อคุณมุ่งมั่นว่าจะเป็นนักกล้ามอย่างจริงจัง คุณก็จะวางตัวแบบเดิมๆไม่ได้ ผมบอกกับมาร์วินว่า "คุณจะเป็นมาร์วินคนเก่าไม่ได้ คุณจะต้องคิดและทำแบบนักกล้าม เพราะไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ทุกสายตาของคนรอบข้างกำลังมองคุณอยู่ นักกล้ามที่แท้จริง จะต้องเป็นคนสุภาพ มีมรรยาท คุณจะต้องไม่หยาบคายกับสิ่งคนที่คุณไม่พอใจ คุณไม่สามารถแอบนอนงีบหลับในที่ๆมีคนอยู่เยอะๆได้ คุณจะเป็นโกรธ หรือโมโหง่ายๆไม่ได้ 
  การปรากฏตัว
           คุณจะต้องเรียนรู้ การสร้าง ความประทับใจครั้งแรกพบ (First impression) ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เราเรียกมันอีกอย่าง การเอาใจใส่ทุกรายละเอียด ในการปรากฏกายของคุณต่อสาธารณชน ผมขอพูดคร่าวๆดังนี้
                 ผมของคุณ จะต้องถูกดูแลอย่างดี อย่าออกจากบ้านโดยไม่หวีผม และเกี่ยวกับทรงผมของคุณ ก็ควรให้ดูสะอาดตาเสมอๆ ที่สำคัญ จงจำไว้ว่า ทรงผมที่ปกใบหน้าเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันดูลึกลับ และไม่น่าคบ
                 เล็บของคุณ จะต้องให้สั้น และดูดีอยู่เสมอ การทำให้ดูดีนั้น หากคุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ขอแนะนำว่า ลองว่าจ้างช่างที่ร้านเสริมสวย ให้ตัดเล็บคุณดูสักครั้ง เพราะเขาจะต้องมีอะไรพิเศษ ที่มากกว่าการตัดธรรมดา ทำกับเล็บคุณแน่ อาจจะเป็นการขลิบเศษหนังที่ยื่นออกมา การลงครีมหลังการตัด ฯลฯ จดจำวิธีพวกนั้น เอามาปฏิบัติเองที่บ้าน
                 ผิวหนังคุณจะต้องดูดี และสะอาด  ซึ่งการบริหารร่างกาย  และการมีโภชนาการที่ดี จะดูแลร่างกายให้คุณโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่เราอาจเสริมด้วยการใช้สบู่ ที่อ่อนโยนกับผิวหนังคุณ ผมคิดว่าสบู่ชนิดระงับกลิ่นเหงื่อ จะทำความระคายเคืองให้กับผิวหนังคุณมากกว่าได้ประโยชน์ และถ้าเป็นไปได้ ในทุกๆวันคุณน่าจะทาโลชัน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นที่เซลล์ผิวหนังคุณด้วย

advice12.jpg

                 ถ้าคุณเป็นนักเพาะกาย ที่จะต้องขึ้นประกวดแล้วละก็ คุณจะต้องไม่มองข้ามการทำผิวคุณ ให้ดูคล้ำเพื่อทำให้กล้ามเนื้อดูเด่นชัด มีอยู่สองวิธีที่ใช้กันคือ เช้าห้องอบสีแทน (tanning salon) และการอาบแดด แล้วถ้าถามว่าต้องให้ดูคล้ำหรือดำขนาดไหน คำตอบก็คือ ให้ดำขนาดที่เมื่อคุณถอดกางเกงในออกแล้ว เห็นเป็นรูปกางเกงในติดอยู่ที่ผิวหนังคุณเลย โดยเฉลี่ยแล้ว จะทำประมาณ 10 ครั้ง มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความคล้ำของผิวแต่ละบุคคล (คนขาวก็มากหน่อย คนดำอยู่แล้วก็น้อยหน่อย - webmaster) 
           ขอพูดถึงการอาบแดดสักนิดเถอะ เพราะผมเคยผิดพลาดเรื่องนี้ โดยในครั้งแรกที่ผมนอนอาบแดดบนม้านอน ปรากฏว่าผมนอนแดดเผาเสียเกรียม ตอนกลางคืนผมนอนไม่หลับเลย เพราะทันทีที่พลิกตัว มันก็ระบมไปทั้งตัว ตอนเช้าผมจึงลากร่างกายไปปรึกษาเพื่อน พวกเขาพากันหัวเราะ และสอนว่าจะต้องทาโลชันก่อนอาบแดด และอย่านอนแต่ละครั้งนานเกินไปด้วย 
           เมื่อเหลืออีก 5 วันจะทำการประกวด ให้คุณหยุดการอาบแดดเสีย เพื่อให้ผิวหนังคุณได้พัก เพราะถ้ายังคงอาบแดดต่อไปอีก จะทำให้ผิวคุณอุ้มน้ำและเต่งขึ้น แทนที่จะแห้งลงอย่างที่เราคาดหวังไว้ (การประกวดเพาะกาย ยิ่งใครที่ทำให้ผิวแห้งได้มาก กล้ามก็จะคมชัดมากขึ้น - webmaster) แล้วหลังประกวด เมื่อคุณได้ดูรูปตัวเองบนเวที คุณก็จะรู้คุณค่าว่า การทำให้ผิวคล้ำและดำขึ้นน่ะ ดีขนาดไหน
                 แต่งกายให้สุภาพและสะอาด เสื้อผ้าคุณจะต้องสะอาด และมีรูปแบบเหมาะกับกาลเทศะ อีกทั้งให้ดูแลห้องนอนและตู้เสื้อผ้าของคุณ ให้เรียบร้อยอยู่เสมอ ฟังดูประเด็นหลังแล้วไม่น่าจะเกี่ยวเลย อีกทั้งเหมือนคุณแม่คุณสั่งเลยใช่ไหม แต่ผมอยากให้รู้ว่า คุณควรเปลี่ยนแปลงนิสัยคุณ ให้มีระเบียบ และรู้จักรักษาความสะอาด เสียตั้งแต่ในห้องนอนคุณเลย แล้วมันจะส่งผลไปถึง ความประณีตในการแต่งกายของคุณด้วย ดูแลเอาใจใส่ห้องนอนคุณ ให้เหมือนกับที่คุณเอาใจใส่ เรื่องโภชนาการ และการบริหารของคุณนั่นแหละ
           ที่กล่าวมาทั้งหมด คุณคงจะเห็นแล้วว่า "การนำเสนอต่อสาธารณชน" ก็คือการวางตัวให้ดูดี ทั้งในและนอกโรงยิมนั่นเอง ชอให้อ่านซ้ำในเรื่องที่ผมกล่าวอีกที เอาใจใส่ และดูว่าอันไหนที่คุณยังขาดไป หรือมองข้าม ก็ให้แก้ไขเสีย ถ้าคุณเป็นเด็กอย่างมาร์วิน ผมก็ต้องจู้จี้เป็นพิเศษ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นผู้ใหญ่ พอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว ก็ขอให้ดูแลตัวเอง ให้เป็นนักกล้ามที่ดูดี และสุภาพครับ


- end -